สถานการณ์น้ำท่วมในหลายพื้นที่ยังน่าวิตก เมื่อเวลา 10.00 น. วันที่ 27 พ.ย. ที่ศาลาว่าการกรุงเทพมหานคร
ผู้สื่อข่าวรายงานว่า ศูนย์อำนวยการเฉพาะกิจป้องกันและแก้ไขปัญหาอุทกภัย กรุงเทพมหานคร (กทม.) ได้รายงานสถานการณ์น้ำประจำวันว่า สถานการณ์น้ำเหนือ ระดับน้ำเจ้าพระยาที่ อ.บางไทร 3.17 เมตร จากระดับน้ำทะเลปานกลาง (ม.รทก.) ลดลงจากเมื่อวานนี้ 6 ซม. น้ำทะเลหนุนสูง เวลา 10.00 น. ระดับ 1.35 ม.รทก.ระดับน้ำในแม่น้ำเจ้าพระยาตรวจวัดที่ปากคลองตลาด สูงสุด เวลา 08.15 น. อยู่ที่ระดับ 2.15 ม.รทก. ต่ำกว่าคันกั้นน้ำ 65 ซม. ส่วนสถานการณ์น้ำทุ่ง 24 ชม.ที่ผ่านมา พื้นที่ดอนเมือง ระดับน้ำลดลง 3 ซม. ระดับน้ำคลองหกวาสายล่าง ที่ประตูระบายน้ำคลองสอง ระดับน้ำลดลง 2 ซม. ฝั่งธนบุรี ระดับน้ำคลองมหาสวัสดิ์ ที่ประตูระบายน้ำคลองทวีวัฒนา ระดับน้ำลดลง 3 ซม.
สำหรับภาพรวมสถานการณ์ใน กทม. 24 ชั่วโมงที่ผ่านมา ระดับน้ำในคลองต่าง ๆ ทั่วพื้นที่กรุงเทพฯ ลดลงอย่างต่อเนื่อง
โดย คลองเปรมประชากร ระดับน้ำลดลง 2-7 ซม. คลองบางเขน ระดับน้ำลดลง 4-7 ซม. คลองลาดพร้าว ระดับน้ำลดลง 4-7 ซม. คลองบางซื่อ ระดับน้ำลดลง 5-7 ซม. คลองแสนแสบ ระดับน้ำลดลง 1-4 ซม. คลองประเวศน์บุรีรมย์ ระดับน้ำลดลง 2-4 ซม. คลองสายหลักพื้นที่ฝั่งธนบุรีตอนบน คลองควาย ระดับน้ำทรงตัว ส่วนคลองอื่น ๆ ระดับน้ำลดลง 1-2 ซม. สำหรับกรณีที่ศูนย์ปฏิบัติการช่วยเหลือผู้ประสบภัย (ศปภ.) ให้ กทม.เปิดประตูระบายน้ำพระยาสุเรนทร์ เพื่อระบายน้ำในพื้นที่จังหวัดปทุมธานี โดยให้เปิดที่ 1.50 เมตร กทม.ยังคงยืนยันเปิดประตูที่ระดับ 1 เมตรเช่นเดิม เนื่องจากหากเปิดประตูเพิ่มกว่านี้จะส่งผล กระทบต่อพื้นที่สุขาภิบาล 5 สายไหมและย่านวัชรพล
ต่อมาผู้สื่อข่าวเดินทางไปตรวจสอบสถานการณ์น้ำบริเวณถนนวิภาวดีรังสิตพบว่าฝั่งขาออกทั้ง 2 ช่องทางนั้นน้ำแห้งสนิทจนถึงบริเวณคลองหลักสี่
ถัดไปเป็นหัวน้ำที่ยังท่วมขังอยู่ประมาณ 20-40 ซม. จนถึงอนุสรณ์สถานรถเล็กไม่สามารถวิ่งผ่านได้ ส่วนทางฝั่งขาเข้าทั้ง 2 ช่องทางนั้นปริมาณน้ำนั้นลดลง บางพื้นที่ถนนแห้งมากกว่าทางฝั่งขาออกโดยหัวน้ำอยู่ที่บริเวณคลังเก็บสินค้า (ศาลเจ้าแม่ไทรทอง) มีระดับน้ำประมาณ 15-30 ซม. จนถึงอนุสรณ์สถาน รถเล็กสัญจรได้อย่างลำบาก ส่วนฝั่งถนนโลคัลโรด หัวน้ำอยู่ที่คลองหลักสี่ระดับสูงใกล้เคียงกับถนนวิภาวดีฝั่งขาออก ด้านถนนสรงประภาระดับน้ำมีความสูงประมาณ 20-40 ซม. แต่ตามซอยต่าง ๆ ยังมีน้ำท่วมสูงประมาณ 50-80 ซม. เข้าออกต้องอาศัยบริการจากรถของทหาร
ซาเล้งรับทรัพย์อื้อคุ้ยขยะหลังน้ำลด
ส่วนกรณีขยะกองยักษ์สูงประมาณกว่า 2 เมตร บนถนนสิรินธรฝั่งขาออก ตั้งแต่บริเวณหน้าห้างตั้งฮั่วเส็ง ยาวประมาณ 500 เมตร
ความคืบหน้าวันเดียวกันนี้ ผู้สื่อข่าวได้ลงพื้นที่ไปสำรวจบริเวณดังกล่าว พบว่ากองขยะได้เพิ่มสูงขึ้นจากเดิมและมีความยาวเพิ่มขึ้นจากเดิมกลายเป็น 1 กม. ทั้งนี้ ทางสำนักงานเขตบางพลัด ได้ให้เจ้าหน้าที่เขตมาคอยอำนวยการเนื่องจากประชาชนที่ทราบข่าว ต่างพากันนำขยะสิ่งของที่ไม่ต้องการมาทิ้งเป็นจำนวนมาก ทำให้ขยะเพิ่มขึ้นอีกเป็นเกือบเท่าตัว อย่างไรก็ตามบรรดารถซาเล้ง หรือผู้ค้าของเก่าเดินทางมาค้นหาสิ่งที่สามารถนำไปใช้หรือนำไปขายได้ ทยอยเดินทางมาคุ้ยเขี่ยกองขยะยักษ์อย่างคึกคัก นอกจากนี้ ยังมีผู้ปล่อยข่าวว่าเมื่อหลายวันก่อน มีผู้มาคุ้ยเขี่ยขยะได้พบกับถุงพระเครื่องจำนวนหนึ่ง ทำให้มีคนเดินทางมาแสวงโชคเพิ่มขึ้น แต่ผู้ค้าของเก่าต่างยืนยันว่าตั้งแต่ค้นหาของพบสิ่งมีค่ามากสุดคือแหวนเงินไม่กี่วงเท่านั้น
ด้านนายเอก อินธนู อายุ 40 ปี คนเก็บของเก่า กล่าวว่าตนทราบข่าวจากเพื่อนร่วมอาชีพเดียวกันว่าที่นี่มีกองขยะยักษ์
โดยเล่าให้ตนฟังว่าได้เก็บพวกขวดพลาสติก เหล็ก อะลูมิเนียม ไปขายได้เงินจำนวนหลายพันบาท สำหรับตนเดินทางมาที่นี่เป็นวันแรก ตั้งแต่เช้ามาได้เก็บเศษขยะและนำไปขายได้เงินเกือบ 2,000 บาท นอกจากนี้เพื่อนที่มาด้วยกันยังเจอสร้อยแหวนทองคำน้ำหนักประมาณ 1 สลึงอีก 1 วง ถือว่าสร้างรายได้เสริมเป็นอย่างดี ส่วนด้านความคืบหน้าในการกำจัดขยะกองยักษ์นั้น เบื้องต้นทางสำนักงานเขตบางพลัดได้ประสานกับทางสำนักงานเขตใกล้เคียงและบริษัทเอกชน นำรถขนและรถตักพร้อมกำลังคนมาร่วมขนย้ายขยะเหล่านี้ไปทิ้งที่บ่อขยะหนองแขม เป็นการเร่งด่วนโดยต้องเร่งดำเนินการให้เสร็จก่อนวันที่ 4 ธ.ค.ที่จะถึงนี้
ส่วนบรรยากาศที่ ศปภ. อาคารเอนเนอร์ยี่ คอมเพล็กซ์ กระทรวงพลังงาน ซอยวิภาวดีรังสิต 11 ตลอดทั้งวันเป็นไปอย่างเงียบเหงา
โดยมีเจ้าหน้าที่ของศปภ.เดินทางเข้ามาทำงานอย่างบางตา สำหรับ พล.ต.อ.ประชา พรหมนอก รมว.ยุติธรรม ในฐาน ผอ.ศปภ. ติดภารกิจชี้แจงการอภิปรายไม่ไว้วางใจต่อที่ประชุมสภาผู้แทนราษฎร สำหรับถนนวิภาวดีรังสิตขาออก ด้านหน้ากระทรวงพลังงานนั้น ทางกรมทางหลวงได้ทำการรื้อถนนที่ถมขึ้นมาใหม่สูงกว่า 1 เมตรเชื่อมระหว่างทางเข้าที่ทำการ ศปภ.กับโทลล์เวย์ในช่วงที่มีน้ำท่วมถนนวิภาวดีรังสิตออกแล้ว
ฝ่ายประชาสัมพันธ์ ศปภ. แจ้งว่า นาง นวลอนงค์ วงษ์จันทร์ หัวหน้ากองประชาสัมพันธ์ การรถไฟแห่งประเทศไทย
รายงานว่า ในวันนี้ฝ่ายการเดินรถประกาศเดินรถไฟสายเหนือ สายตะวันออกเฉียงเหนือ เส้นทางไป-กลับ เพิ่มอีกกว่า 30 ขบวน โดยขบวนรถไฟจะออกเดินรถจากสถานีกรุงเทพฯ หรือหัวลำโพง-สามเสน-ชุมทางบางซื่อ-หลักสี่-ดอนเมือง จนถึงปลายทาง แต่บางช่วงอาจจะต้องมีการลดความเร็ว รอทางหรือรอหลีกขบวนรถอื่นระหว่างสถานี เนื่องจากช่วงดังกล่าวเส้นทางอาจมีน้ำท่วมขังสูงหรือต้องเปลี่ยนมาใช้ทางร่วมกันในแต่ละสถานี ส่วนขบวนสายใต้ขณะนี้สามารถเดินรถได้ตามปกติแล้ว รวมถึงสายวงเวียนใหญ่-มหาชัย สามารถเดินรถได้จนถึงปลายทาง
ด้านนายอเนก สีหามาตย์ รองอธิบดีกรมศิลปากร กล่าวถึงการบูรณะซ่อมแซมโบราณสถานที่ได้รับผลกระทบจากสถานการณ์น้ำท่วมว่ามีโบราณสถานที่ได้รับผลกระทบจากน้ำท่วมทั้งในภาคเหนือ ภาคกลางและภาคตะวันออกเฉียงเหนือ 313 แห่ง คาดการณ์ว่าจะใช้งบประมาณในการฟื้นฟูราว 1,400 ล้านบาท