ชี้น้ำท่วมกระทบหนักเกษตรกรขายขาดทุน ห่วงโรคระบาด อาหารสัตว์แพงตามหลอน แต่ยันหมูเพียงพอไม่ขาดตลาด
วันนี้ ( 14 พ.ย.) นายสุรชัย สุทธิธรรม นายกสมาคมผู้เลี้ยงสุกรแห่งชาติ เปิดเผยว่า ขณะนี้เกษตรกรผู้เลี้ยงหมูกำลังประสบปัญหาขาดทุนอย่างหนัก โดยต้องขายสุกรขาดทุนถึงตัวละ 800-1,000 บาท เนื่องจากพ่อค้ารับซื้อหมูเป็นเพียง กก. 50-55 บาท ต่ำกว่าต้นทุน กก. 61 บาท แต่เกษตรกรต้องรีบขายเพื่อหลีกหนีจากภาวะน้ำท่วม อย่างไรก็ตามหลังน้ำลดสมาคมฯ จะประเมินสถานการณ์และปรับราคาขายอีกครั้งเพื่อไม่ให้เกษตรกรขาดทุน และกระทบต่อผลผลิตป้อนสู่ตลาด
“หลังจากน้ำลดต้องดูกันใหม่ เกษตรกรต้องการขายให้มีกำไรไม่ต่ำกว่า 10% ของต้นทุน หรือขายหมูเป็น กก. 67-68 บาท เพราะหากขาดทุนมาก อาจทำให้ผู้เลี้ยงหยุดเลี้ยงและมีเนื้อหมูไม่พอต่อความต้องการได้ แต่ยอมรับว่าการปรับราคาหมูเป็นอาจกระทบต่อราคาหมูเนื้อแดงให้ปรับขึ้นเล็กน้อย จากตอนนี้กก.120 บาท อาจเพิ่มเป็น 125-130 บาท เพื่อช่วยให้ผู้เลี้ยงหมูอยู่ได้” นายสุรชัย กล่าว
สำหรับสถานการณ์การเลี้ยงหมูในขณะนี้ ยังยืนยันว่ามีเนื้อหมูเข้าสู่ตลาดเพียงพอต่อความต้องการ
โดยถูกน้ำท่วมเสียหายแค่ 10% จึงยังไม่ขาดตลาด แต่สิ่งที่ห่วงคือสถานการณ์หลังน้ำลดลง ซึ่งผู้เลี้ยงหมูกังวลว่าปัญหาโรคระบาดอาจตามมา รวมถึงผลกระทบจากน้ำท่วมอาจทำให้ราคาอาหารสัตว์เสียหาย และมีแนวโน้มว่าราคาอาหารสัตว์จะสูง จนกระทบต่อต้นทุนการเลี้ยงหมูให้เพิ่มอีกได้
นายสุทธิชัยกล่าวว่า เกษตรกรต้องแบกรับปัญหาขาดทุนมานานกว่า 2 เดือน ตั้งแต่ก่อนเกิดวิกฤติน้ำท่วม
ที่ผู้เลี้ยงหมูส่วนใหญ่วิตกกังวลและไม่มั่นใจในสถานการณ์ที่เกิดขึ้นจึงระงับการนำหมูเข้าเลี้ยง ที่สำคัญผู้เลี้ยงบางรายจำเป็นต้องขายลูกหมูหนีน้ำ เป็นหมูหันในราคาต่ำ และเมื่อเกิดภาวะน้ำท่วมก็ส่งผลให้การบริโภคเนื้อหมูลดลง จึงยิ่งเป็นการซ้ำเติมปัญหาขึ้นไปอีก
“ช่วงนี้เกษตรกรยอมขายหมูขาดทุน เพราะประชาชนในหลายพื้นที่ต่างได้รับผลกระทบจากปัญหาวิกฤติน้ำท่วม แต่เราก็จะยังคงอดทนเพื่อผู้บริโภคต่อไป อย่างไรก็ตามหลังจากน้ำท่วมคลี่คลาย คงต้องเฝ้าระวังเกี่ยวกับปัญหาโรคระบาดที่อาจจะตามมา ซึ่งจะส่งผลต่อปริมาณหมูในตลาดที่อาจลดลง” นายสุรชัย กล่าว.
กระทู้ร้อนแรงที่สุดของวันนี้
กระทู้ล่าสุด
รูปเด่นน่าดูที่สุดของวันนี้
