หวั่นชู้สาวในศูนย์ขอถุงยางอนามัย

ภาพจาก คมชัดลึกภาพจาก คมชัดลึก


หลังวิกฤติน้ำท่วมส่งผลให้ประชาชนเรือนล้านต้องกลายเป็นผู้ประสบภัย บ้างต้องย้ายไปอยู่ต่างจังหวัด บ้างไปขออาศัยอยู่บ้านญาติ บ้างก็ยังคงใช้ชีวิตอยู่กับน้ำท่วม และมีไม่น้อยที่ต้องอพยพมาอยู่ตามศูนย์พักพิงต่างๆ ของภาครัฐและเอกชนที่จัดขึ้นมา คอยดูแลบรรเทาความเดือดร้อนของผู้ประสบภัย แต่เมื่อมีคนหมู่มากเข้ามาอยู่รวมกันก็ย่อมเกิดปัญหาจิปาถะมากมาย โดยเฉพาะพฤติกรรมที่ไม่เหมาะสมในเชิงชู้สาวอาจเกิดขึ้นได้

       
ล่าสุด นพ.พรเทพ ศิริวนารังสรรค์ อธิบดีกรมควบคุมโรค กระทรวงสาธารณสุข เปิดเผยว่า มีศูนย์อพยพและศูนย์พักพิงบางแห่งมีการร้องขอถุงยางเพื่อไปแจกจ่าย เนื่องจากพบว่ามีเรื่องเชิงชู้สาวเกิดขึ้นในศูนย์พักพิง และรวมถึงอาจมีพฤติกรรมทางเพศที่ไม่เหมาะสม ด้วยความเป็นห่วงว่า อาจจะเกิดปัญหาตามมา อาทิ โรคติดต่อ การตั้งครรภ์ ฯลฯ
       
ประเด็นดังกล่าว "คม ชัด ลึก" สุ่มตรวจสอบตามศูนย์อพยพและศูนย์พักพิงหลายแห่ง จากการสอบถามเจ้าหน้าที่ที่ดูแลศูนย์ ส่วนใหญ่ตอบคล้ายๆ กันว่า เป็นเรื่องปกติที่คนจำนวนมากเมื่อมาอยู่ในที่แห่งเดียวกันในยามขับขัน เมื่อต่างคนต่างช่วยเหลือกัน ความรู้สึกดีๆ ก็ย่อมเกิดขึ้น และอาจนำไปสู่การตัดสินใจที่จะคบหาดูใจกัน แต่ก็ยังไม่เคยเจอเหตุการณ์มีเพศสัมพันธ์กันภายในศูนย์ ถึงจะเกิดขึ้นจริง ก็เชื่อว่าไม่มีใครกล้าเปิดเผยหรือแสดงพฤติกรรมอย่างโจ่งแจ้ง
       
นอกจากนี้ "คม ชัด ลึก" ยังเฝ้าติดตามดูพฤติกรรมผู้ประสบภัยน้ำท่วม โดยเฉพาะกลุ่มเด็กวัยรุ่นที่มาอยู่รวมกันในศูนย์พักพิงเหล่านี้ กลุ่มวัยรุ่น อยู่ในช่วงอายุที่อยากทดลอง และอาจไขว้เขวได้ง่าย ทั้งนี้ พฤติกรรมของเด็กวัยรุ่นส่วนใหญ่จะคล้ายๆ กันคือ ช่วงกลางวันเด็กๆ เหล่านี้จะออกไปช่วยอาสาสมัครในศูนย์อพยพ ทั้งแพ็กของลงถุงยังชีพ ขนย้ายสิ่งของที่มีผู้เอามาบริจาค สิ่งที่น่าสังเกตคือเด็กวัยรุ่นเหล่านี้ มักจะมีการหยอกเอินกันไปมา
       
แต่เมื่อถึงเวลากลางคืนกลุ่มวุ่ยรุ่นเหล่านี้ จะไม่สามารถที่จะมาทำกิจกรรมอะไรได้อีก เพราะมีผู้ปกครองซึ่งอยู่ในศูนย์อพยพด้วย เขาจึงเลือกที่จะออกไปอยู่รายรอบศูนย์อพยพ เพื่อนั่งคุยหยอกล้อกัน อย่างพื้นที่ศูนย์อพยพของสนามกีฬาราชมังคลากีฬาสถาน เมื่อค่ำคืนจะมีพื้นที่หลายจุดมืดและเงียบ จะเห็นวัยรุ่นจับคู่กันเข้าไปนั่งคุยและอาจเป็นจุดเริ่มของการมีเพศสัมพันธ์ก็ได้
       
ด้าน นายมนตรี สินทวิชัย หรือครูยุ่น เลขาธิการมูลนิธิคุ้มครองเด็ก บอกว่า เรื่องเพศสัมพันธ์เป็นเรื่องปกติของมนุษย์อยู่แล้วจะเข้าไปห้ามไม่ให้เขามีเพศสัมพันธ์นั้นคงเป็นไปไม่ได้ และก็ไม่น่าแปลกที่ตามศูนย์อพยพจะมีเรื่องเพศสัมพันธ์ เพราะการที่มีคนไปอยู่รวมกันช่วยเหลือกัน ในยามที่กำลังทุกข์ ความเห็นอกเห็นใจก็เกิดขึ้นและก็อาจพัฒนาการเป็นเรื่องเพศได้
       
“เรารู้อยู่แล้วว่าเรื่องแบบนี้มันจะเกิดขึ้น ถึงแม้ทางศูนย์จะไม่มีการสนับสนุน จึงต้องเตรียมพร้อมทั้งเรื่องความรู้เกี่ยวกับโรคติดต่อทางเพศสัมพันธ์ หรือไม่ก็จัดหาส่งเสริมให้ผู้อพยพมีกิจกรรมและงานอดิเรกทำ เรื่องเพศก็อาจจะลดลงได้” ครูยุ่นแนะนำ
       
ครูยุ่นบอกอีกว่า ปัญหาการมีเพศสัมพันธ์ในศูนย์อพยพ อยากให้มองไปที่ตัวเยาวชนเป็นหลัก เพราะกลุ่มคนเหล่านี้ยังมีความด้อยทางวุฒิภาวะอย่างมาก หากมีอะไรที่สามารถโน้มน้าวจิตใจของเขาได้เขาก็จะไขว้เขว และหากมีอะไรผิดพลาด หรือพลาดพลั้งไปแล้ว มันจะกลายเป็นปัญหาทับซ้อนทางสังคม จะย่ำแย่ไปกันใหญ่ ในภาวะแบบนี้ผู้ปกครองควรจะจับตาดูลูกหลานอย่างใกล้ชิด ให้ความสนใจเขามากๆ ในภาวะแบบนี้ อย่าให้เขาขาดที่พึ่ง ขณะที่ภาครัฐก็ต้องเข้ามาให้ความรู้เกี่ยวกับเพศให้มากขึ้นด้วย


เครดิต :
ขอขอบคุณเนื้อหาข่าว คุณภาพดี โดยหนังสือพิมพ์คมชัดลึก

ข่าวดารา ข่าวในกระแส บน Facebook อัพเดตไว เร็วทันใจ คลิกที่นี่!!
กระทู้เด็ดน่าแชร์