ศปภ. เหลือเวลา 48 ชม.เร่งระบายน้ำออกสู่อ่าวไทย สั่งเสริมความแข็งแรง 2 แนวคันกั้นน้ำ เชื่อมั่นน้ำไม่ท่วมกรุงเทพฯ
วันนี้ ( 19 ต.ค.) ที่ ศปภ. ดอนเมือง นายชลิต ดำรง ศักดิ์ อธิบดีกรมชลประทาน แถลงว่า ขณะนี้ยังคงมีน้ำไหลเข้าคลองระพีพัฒน์อย่างต่อเนื่องประกอบกับไม่สามารถบริหารจัดการน้ำไปตามคลองหนึ่งถึงคลองหกเพื่อผันไปทางฝั่งตะวันออกได้ตามแผนการ ทำให้มีน้ำสะสมจำนวนมากและไหลออกไปตามคลองต่างๆ บางส่วนไหลออกออกทุ่ง ซึ่งจากการขึ้นเฮลิคอปเตอร์สำรวจมีพื้นที่ๆได้รับผลกระทบ ประมาณ 3 แสนไร่และน้ำจะเพิ่มระดับขึ้นอย่างช้าๆ ทั้งนี้คาดว่าภายใน 1-2 สัปดาห์น้ำจะขึ้นไปถึง 1 เมตรจึงอยากให้พี่น้องประชาชนโยกย้ายออกจากพื้นที่ อย่างไรก็ตามกรมชลประทานจะบริหารจัดการน้ำอย่างดีที่สุดขณะนี้คลองระพีพัฒน์และคลองรังสิตประยูรศักดิ์ยังพอยันน้ำไว้ได้ จึงขอความร่วมมือพี่น้องประชาชนช่วยร่วมมือให้ ศปภ.ดำเนินการตามแผนการได้
น.อ.อนุดิษฐ์ นาครทรรพ รมว. ไอซีที กล่าวว่า รัฐบาลได้เสริมความแข็งแรงของคันกั้นน้ำ
จากคลองหนึ่งถึงแนวถนนวงแหวนรอบนอกไปบรรจบกับคลองรังสิต นครนายก ความยาว 20 กม. มีกองทัพไทยเป็นผู้รับผิดชอบ ส่วนอีกแห่งจะทำที่ประตูน้ำจุฬาลงกรณ์ ถึงคลองแปด ซึ่งจะสามารถบล็อกน้ำไม่ให้เข้าสู่ กทม.ได้และน้ำจะไหลไปตามความลาดเอียงผ่านทุ่งรังสิต ผันไปทางฝั่งตะวันออกซึ่งจะไปชนกับคันกั้นน้ำของกรมชลประทานที่ทำไว้จากคลองแปดถึงคลองหกวาล่าง จากนั้นน้ำไปตามทิศตะวันออกถึงคลองสิบสามออกสู่อ่าวไทย มีกรมชลประทานรับผิดชอบ
น.อ.อนุดิษฐ์ กล่าวต่อว่า อย่างไรก็ตามในส่วนของฝั่งตะวันออกนั้นจะมีการเร่งสูบน้ำในพื้นที่ๆ ประชาชนได้รับผลกระทบเพื่อบรรเทาความเดือดร้อนควบคู่กันไป ส่วนเขตเศรษฐกิจที่น้ำจะไหลผ่านนั้น ทาง ศปภ.ได้แจ้งให้เตรียมความพร้อมแล้ว อย่างไรก็ตามเรามีเวลา 48 ชม.ในการบริหารจัดการน้ำและเสริมความแข็งแรงของคันกั้นน้ำ ซึ่งขณะนี้หน่วยงานที่รับผิดชอบเริ่มดำเนินการแล้ว
นายอุเทน ชาติภิญโญ ประธานคณะกรรมการผันน้ำลงทะเล ศูนย์ปฏิบัติการช่วยเหลือผู้ประสบอุทกภัย (ศปภ.) กล่าวว่า น้ำจะไม่เข้าท่วมพื้นที่กรุงเทพฯ หากมีการปล่อยน้ำจากคลองระพีพัฒน์ จ.ปทุมธานี เข้าสู่กรุงเทพฯ โดยคณะกรรมการผันน้ำลงทะเล วางแนวทางเรียบร้อยแล้ว
ผู้สื่อข่าวรายงานว่า ฝ่ายประชาสัมพันธ์ ศูนย์ปฏิบัติการช่วยเหลือผู้ประสบอุทกภัย(ศปภ.) รายงานว่า
ยอดเงินที่ศปภ.ได้รับบริจาคตั้งแต่วันที่ 8-19 ต.ค.54 รวม 90,978,882.94บาท ส่วนยอดบริจาคสิ่งของรวม 5,363,513 ชิ้น โดย ศปภ.ได้จัดส่งของให้ผู้ประสบภัยทางรถบรรทุกขนาดใหญ่ 51 คันและรถบรรทุกขนาดเล็ก 10 คัน ตั้งแต่เปิดศูนย์มีประชาชนโทรศัพท์เข้ามาที่ศูนย์ฯ 139,941 ราย แสดงความชมเชย 13 ราย ก่อกวน 19,888 ราย
ผู้สื่อข่าวรายงานว่า ฝ่ายประชาสัมพันธ์ ศปภ. รายงานว่า กรมทางหลวง กระทรวงคมนาคม
แนะนำประชาชนให้สอบถามเส้นทางก่อนเดินทาง 1 ชั่วโมง โดยมีสภาวะน้ำท่วม 23 จังหวัด 115 สายทาง รวม 130 แห่ง โดยเส้นทางผ่านได้ 55 แห่ง ผ่านไม่ได้ 75 แห่งจากเส้นทาง 68 สายทาง สอบถามเส้นทางจราจร 1586 และตำรวจทางหลวง 1139 นอกจากนี้ให้เฝ้าระวังน้ำท่วมฉับพลันและน้ำป่าไหลหลาก วันที่ 19-21 ต.ค.2554 โดยเฉพาะ จ.ชุมพร สุราษฎร์ธานี นครศรีธรรมราช พัทลุง และสงขลา