น้ำจะท่วมเต็มกรุงเทพฯ ช่วงพ.ย.-ธ.ค.น้ำทะเลก็หนุน น้ำป่าไหลหลากซ้ำแถมน้ำเหนือวิ่งมาท่วมสะสมที่ นครสวรรค์ จากนั้นก็จะวิ่งมาที่กทม.
นายอังสุมาล ศุนาลัย อธิบดีกรมอุตุนิยมวิทยา กล่าวถึงสถานการณ์อากาศปัจจุบัน ว่า แม้ที่ผ่านมาถือว่าไม่น่าเป็นห่วงมาก เนื่องจากเป็นช่วงที่ฤดูฝนพักยก หลังจากที่ตกหนักติดต่อมาหลายวัน แต่นับจากเดือนกันยายน เป็นต้นไป จะเข้าฤดูฝนตกหนักเต็มรูปแบบทั่วทุกพื้นที่โดยเฉพาะกรุงเทพฯ
“สาเหตุที่ระยะนี้ฝนไม่ค่อยตกตามเวลาเหมือนเดิมมาจากอิทธิพลของร่องความกดอากาศ ที่อ่อนกำลัง และจะลงมาใหม่อีก 3-4 วัน อย่างไรก็ดีสิ่งที่ต้องเฝ้าระวังมากในระยะเวลาอันใกล้ คือ ปริมาณน้ำสะสมตามเขื่อนต่างๆ เช่น เขื่อนจากภาคเหนือ และภาคอีสาน และหากฝนยังตกหนักแบบนี้ กลางเดือนตุลาคม กรุงเทพฯ จะวิกฤตมากๆ เนื่องจากเขื่อนต่างๆ จะปล่อยน้ำที่เต็มเขื่อนออกมา ถึงเวลานั้น สิ่งที่น่าเป็นห่วงไม่แพ้กันก็คือ เวลาน้ำมากๆ พอเข้าฤดูหนาวภาคเหนือ-อีสาน จะหนาวหนักขึ้นไปอีก จึงอยากจะให้ประชาชนเตรียมตัวรับมือกับสถานการณ์เช่นนี้ตั้งแต่เนิ่นๆ”
กรุงเทพฯ เป็นอัมพาตจากน้ำท่วมขัง
ดร.สมิทธ ธรรมสโรช ประธานกรรมการมูลนิธิเตือนภัยพิบัติแห่งชาติ กล่าวว่า ตอนนี้ภัยแล้งได้หมดไปจากประเทศไทย แต่กลายสภาพมาเป็น “ลานิญ่า” จากน้ำท่วมแทน เนื่องจากสถานการณ์ปริมาณน้ำมาก ซึ่งจากข้อมูลที่เกาะติดพบว่าเดือนกันยายน น้ำจะเยอะมากๆ ในภาคกลาง
"แต่สิ่งที่ผมเป็นห่วงมากๆ ก็คือปริมาณน้ำใน “เขื่อนป่าสักชลสิทธิ์” จังหวัดลพบุรี ซึ่งก็มีปริมาณน้ำเต็มที่และจะต้องปล่อยน้ำออกมา ดังนั้น น้ำจะท่วมเต็มกรุงเทพฯ โดยเฉพาะในช่วงเดือนพฤศจิกายน-ธันวาคม น้ำทะเลก็หนุน น้ำป่าไหลหลากซ้ำแถมน้ำเหนือวิ่งมา จาก จ.พิจิตร จ.พิษณุโลก จ.สุโขทัย เข้ามาที่ จ.ชัยนาท จะมาท่วมสะสมที่ จ.นครสวรรค์ หลังจากนั้นก็จะวิ่งเข้ากรุงเทพฯ พร้อมกัน”