บางกระดีสุดรับมือจุดพลุแจ้งชาวบ้านหนีน้ำ

บางกระดีสุดรับมือเทศบาลจุดพลุแจ้งชาวบ้านรีบอพยพ หลังน้ำจากคลองเชียงรากไหลทะลัก

ผู้สื่อข่าวรายงานว่าเมื่อเวลา 07.30 น. วันนี้(19 ต.ค.) เทศบาลตำบลบางกระดี่ จ.ปทุมธานีได้จุดพลุ 5 ชุดชุดละ 3 นัด รวม 15 นัด เพื่อเป็นเตือนให้ประชาชนรีบอพยพออกจากพื้นที่ทันที หลังน้ำจากคลองเชียงรากได้ไหลเอ่อเข้าท่วมอย่างรวดเร็วและเทศบาลไม่สามารถรีบมือไว้ได้

ขณะเดียวกันมีรายงานว่าประชาชนที่หมู่บ้านไวท์เฮ้าส์ก็เตรียมจะอพยพออกจากพื้นที่เช่นเดียวกัน ส่วนถนนหพลโยธิน ด้านหน้าฟิวเจอร์พาร์ครังสิต มีน้ำท่วมขังสูงกว่า 50 ซม. ส่งผลให้การจราจรติดขัดอย่างหนัก

ก่อนหน้านั้นเมื่อวันที่ 18ค.ต.ผู้สื่อข่าวรายงานว่าเกิดเหตุแนวพนังกั้นน้ำที่ทำจากคันดินความสูง 1.80  เมตร 

ที่อยู่บริเวณถนนเรียบคลองระพีพัฒน์ ฝั่งอำเภอคลองหลวง  จ.ปทุมธานี บริเวณหมู่ 16 ต.คลองสี่ อ.คลองหลวง จ.ปทุมธานี ไม่สามารถรับแรงดันน้ำได้เกิดพังลงมาได้รับความเสียหายเป็นแนวยาวกว่า  5  เมตร  ทำให้น้ำจำนวนมากไหลทะลัก เข้าท่วมบ้านเรือนของประชาชน ตลอดจนไร่นา  และหมู่บ้านจัดสรรจำนวนหลายโครงการได้รับความเสียหาย

หลังเกิดเหตุนายพันชาติ อรุณกรณ์พสุรักษ์ ผู้ใหญ่บ้าน. หมู่ 16 ต.คลองสี่

ได้ออกประกาศ เสียงตามสายเรียกชาวบ้านให้ออกมาช่วยกันเร่งกู้แนวคันดินกั้นน้ำ ซึ่งหลังจากนั้นไม่นานก็มีหลายหน่วยงานได้ส่งกำลังคนและเครื่องจักกลหนักเข้ามาช่วย ขณะเดียวกัน พ.ต.ท.รังสิมันต์ สงเคราะห์ธรรม รอง.ผกก.ฝ่ายอำนวยการ กองบังคับการ ตชด.ภ.1 ได้นำกำลังเจ้าหน้าที่ ตชด.เกือบ 100 นาย เข้ามาช่วยเสริมภารกิจในการซ่อมแนวคันดินที่พังลง ซึ่งขณะนี้ยังไม่สามารถกู้สถานการณ์ได้เพราะกระแสน้ำนั้นแรงมาก

โดยน้ำที่ไหลทะลักจะเข้าท่วมพื้นที่ใน ต.คลองสี่ ต.ลองสาม ต.คลองสอง อ.คลองหลวง จ.ปทุมธานี หลังจากนั้นจะมุงหน้าเข้าคลองรังสิตประยูรศักดิ์ ซึ่งจะทำให้ระดับน้ำในคลองสอง คลองสาม และคลองสี่เพิ่มขึ้นล้นตลิ่งเข้าบ้านเรือนประชาชนในวงกว้างอีกด้วย

สำหรับคลองระพีพัฒน์ เป็นอีกหนึ่งเส้นทางที่สำคัญในการผันน้ำออกสู่ทะเล เริ่มต้นจากประตูระบายน้ำพระนารายณ์ ที่ต.ท่าหลวง อ.ท่าเรือ จ.พระนครศรีอยุธยา

ก่อนจะไหลลงมาที่อ.หนองแค จ.สระบุรี และแยกออกเป็นสองสาย คือ คลองระพีพัฒน์แยกใต้ ระบายน้ำผ่านทางประตูน้ำพระศรีเสาวภาค ออกไปยังอ.องครักษ์ จ.นครนายก ความยาว 28.7 กิโลเมตร ส่วนอีกสายคือ คลองระพีพัฒน์แยกตะวันตก ระบายน้ำผ่านทางประตูน้ำพระศรีศิลป์ และไปสิ้นสุดที่ประตูน้ำพระอินทร์ราชา จ.ปทุมธานี ความยาว 36.6 กิโลเมตร โดยสามารถรองรับน้ำจากที่ไหลมาจากเขื่อนป่าสักชลสิทธิ์ได้เต็มที่ 210 ลูกบาศก์เมตรต่อวินาที.