เมื่อเวลา 01.30 น. วันที่ 18 ต.ค. นายพีระศักดิ์ หินเมืองเก่า ผวจ.ปทุมธานี
พร้อมกำลังทหารและหน่วยกู้ภัยนำเรือท้องแบนเข้าตรวจสอบหมู่บ้านมณีรินทร์ ถนนสาย 345 ต.บางคูวัด อ.เมือง หลังจากคันกั้นน้ำของหมู่บ้านแตกและน้ำทะลักเข้าท่วมหมู่บ้าน โดยมีชาวบ้านบางส่วนที่หลบหนีออกมาไม่ทัน จากการเข้าตรวจสอบพบมีประชาชนหลายสิบคนต้องการย้ายไปอยู่ที่อื่น เนื่องจากถูกตัดน้ำตัดไฟ ทำให้หมู่บ้านมืดสนิท และยังพบรถยนต์จมอยู่ในน้ำมิดหลังคาอีกกว่า 100 คัน
ต่อมาช่วงเช้า นายพีระศักดิ์ พร้อมด้วยพล.ท.ยอดยุทธ บุญญาธิการ ผู้บัญชาการหน่วยบัญชาการป้องกันภัยทางอากาศ กองทัพบก
ขึ้นเฮลิคอปเตอร์บินสำรวจสภาพน้ำท่วมตั้งแต่ตัวเมืองปทุมธานี ไปยังพระตำนักจักรีบงกช ต.หลักหก อ.ลาดหลุมแก้ว นิคมอุสาหกรรมนวนครจนไปถึงอ.ธัญบุรี เพื่อดูสภาพน้ำและนำประเมินสถานการณ์หาทางป้องกันน้ำไม่ให้ไหลเข้ากทม. จากการบินสำรวจครั้งนี้พบในพื้นที่จังหวัดมีน้ำท่วมสูงจนชาวบ้านไม่สามารถอาศัยอยู่ได้
ส่วนพื้นที่ย่านนิคมอุสาหกรรมนวนครพบน้ำเข้าท่วมพื้นที่ทางทิศเหนือ
ซึ่งเป็นโรงงานผลิตเครื่องจักรใหญ่ และอุปกรณ์อิเล็กทรอนิกส์ โดยพบความเสียหายประมาณ 10 เปอร์เซ็นต์ เนื่องจากบล็อกแนวคันกั้นน้ำไว้ในชั้นที่ 3 สำหรับประชาชนในพื้นที่ย่านนวนครส่วนใหญ่อพยพออกจากพื้นที่ไปก่อนแล้ว ซึ่งในภาพถ่ายทางอากาศพบว่าคันดินแตกกว้างกว่า 50 เมตร สาเหตุจากเครื่องบินซีนุกหย่อนตู้คอนเทนเน่อร์ เพื่อยันแนวคันกั้นน้ำ แต่ผิดเป้าหมายไปถูกแนวคันดินกั้นน้ำแตก น้ำทะลักไหลมากขึ้น ทำให้เจ้าหน้าที่ทหารต้องช่วยกันสร้างแนวคันดินขึ้นมาใหม่ถึง 3 ชั้น เพื่อป้องกันน้ำไม่ให้ไหลไปยังโครงการอื่นๆอีก
ที่ศปภ. พล.ต.อ.ประชา พรหมนอก รมว.ยุติธรรม ในฐานะผอ.ศปภ. กล่าวภายหลังเดินทางตรวจสถานการณ์น้ำท่วมนิคมอุตสาหกรรมนวนคร ว่าน้ำเข้าท่วมพอสมควร ประมาณ 30 เปอร์เซ็นต์
แต่ยังมีพื้นที่ปลอดภัยอยู่บ้างประมาณ 50-60 เปอร์เซ็นต์ ส่วนกรณีที่นิคมเสนอให้เปิดประตูระบายน้ำ 5 บานนั้น ก็จะพยายามดำเนินการเปิดให้ได้ แต่จุดสำคัญคือต้องทำความเข้าใจกับประชาชนที่อยู่ในบริเวณดังกล่าวก่อน เพราะเขาต้องเดือดร้อนหากเปิดประตูระบายน้ำ คงต้องจับเข่าคุยกันว่าหากไม่ทำตามแผนที่ศปภ.วางไว้จะเกิดผลเสียหายกับส่วนรวมอย่างไร โดยช่วงบ่ายวันนี้ตนจะประชุมร่วมกับกระทรวงเกษตร กรมชลประทาน และกทม. เพื่อหารือกันให้จบว่าจะต้องทำตามแผนอย่างนั้นอย่างนี้ เพียงแต่ต้องทำความเข้าใจกับประชาชนด้วย และให้กทม.เสริมแนวกั้นที่ทำอยู่ให้เสร็จ เพื่อรักษาพื้นที่กทม.ไว้ให้ได้
ผู้สื่อข่าวถามว่า หากการพูดคุยทำความเข้าใจกับประชาชนในพื้นที่ไม่ได้ผลจำเป็นต้องใช้พ.ร.ก.ฉุกเฉินในบางพื้นที่หรือไม่ พล.ต.อ.ประชา กล่าวว่า ยังไม่ถึงขั้นนั้นขอให้ได้พูดคุยกันก่อนเพราะคนไทยเราพูดคุยกันได้ เพียงแต่ขอเวลาสักนิด