ปูวอนทุกฝ่ายช่วยป้องกันกทม.

เมื่อเวลา 20.10 น. วันที่ 17 ต.ค. 2554 พล.ต.อ.พงศพัศ พงษ์เจริญ รองผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติ  เปิดเผยภายหลังการประชุมศูนย์ ศปภ.ที่มี นายกรัฐมนตรี เป็นประธานว่า  นายกฯ มีความกังวล เนื่องจากน้ำไหลไปหลายทิศทาง และอาจกระทบกับพื้นที่กทม. จึงอยากให้ทุกฝ่ายช่วยกันป้องกันกทม.  สำหรับจังหวัดที่จมน้ำไปแล้ว ก็จะให้มีการฟื้นฟู โดยในวันที่ 18 ต.ค. นายกฯ จะประชุมร่วมกับรัฐมนตรีทุกภาคส่วน เกี่ยวกับเรื่องน้ำ เพื่อให้เตรียมพร้อมรับมือน้ำ ในอีก 2 - 3 วัน ว่าจะไหลไปในทิศทางใด หากป้องกันไม่ได้ จะใช้มาตรการในขั้นที่ 2 หรือ  3 หากป้องกันไม่ได้ หรือป้องกันไม่ไหวจริงๆ จะต้องบอกให้ประชาชนอพยพ ไม่อยากให้ดันทุรัง

นอกจากนี้ นายกฯ ยังเป็นห่วงศูนย์อพยพที่หลายแห่งเต็มไปแล้ว 

โดยให้กระทรวงพัฒนาสังคมฯเข้าไปดูแล และพัฒนาศูนย์พักพิงให้มีสภาพที่สามารถอยู่อาศัยได้ในระยะยาว เพราะสถานการณ์น้ำท่วม และความเสียหายจากน้ำท่วม น่าจะเดือดร้อนนาน จึงต้องจำเป็นต้องวางแผนเรื่องการจ้างงาน หรือการฝึกอาชีพ  ภายในศูนย์พักพิง  อย่างไรก็ตามขณะนี้รัฐบาลต้องการมีเครื่องสูบน้่ำ ขนาด 12 นิ้ว เพื่อนำไปดูแลตามประตูน้ำต่าง ๆ  เพื่อป้องกันไม่ให้น้ำไหลเข้าไปในพื้นที่  ซึ่งในวันพรุ่งนี้ จะมีผู้เชี่ยวชาญมาอธิบายเรื่องน้ำว่าจะไหลไปนำในทิศไหนบ้าง

         
เมื่อถามว่า จำเป็นที่จะต้องประกาศ พ.ร.ก.สถานการณ์ฉุกเฉินหรือไม่ 

พล.ต.อ.พงศพัศ กล่าวว่า มีการหารือกัน และมีความเห็นตรงกัน ว่า พ.ร.ก.บริหารราชการแผ่นดิน สามารถนำมาใช้ได้ จึงไม่จำเป็นต้องประกาศ พ.ร.ก.ฉุกเฉิน เนื่องจากปัญหาในขณะนี้ จะกำกับเหมือนเแถวทหาร ตำรวจไม่ได้ ปัญหาน้ำเป็นภาวะที่ต้องบริหารจัดการ ซึ่งหทารและกองทัพ ได้เข้ามาเต็มรูปแบบแล้ว สถานการณ์ที่เกิดขึ้นไม่ใช่ภาวะร้ายแรงที่จะทำให้ประชาชนเสียชีวิต อย่างไรก็ตาม รัฐบาลยืนยันว่า มีเป้าหมายจะต้องรักษาพื้นที่เศรษฐกิจเอาไว้ให้ได้

         
ผู้สื่อข่าวรายงานว่า ภายหลังการประชุม นายกฯ ได้เดินทางออกจากศปภ. ที่สนามบินดอนเมืองทันที