ผวาน้ำท่วมกรุง! เตรียมแผนอพยพ-แห่กักตุนอาหาร

กทม.เริ่มหวั่นน้ำท่วม ผู้ว่าฯสั่งทุกหน่วยงานพร้อมรับสถานการณ์ ชาวบ้านผวากักตุนอาหาร

เมื่อเวลา 17.30 น. วันที่ 8 ต.ค. ที่ศาลาว่าการกรุงเทพมหานคร ม.ร.ว.สุขุมพันธุ์ บริพัตร ผู้ว่าราชการกรุงเทพมหานคร เปิดเผยภายหลังการประชุมแผนอพยพประชาชนและเตรียมความพร้อมรับสถานการณ์น้ำว่า  กทม.ได้เตรียมแผนอพยพประชาชนในพื้นที่เสี่ยงและพื้นที่ ที่ได้รับผลกระทบจากน้ำท่วมมาระยะหนึ่งแล้ว คาดว่าในช่วงวันที่ 15 – 18 ต.ค.นี้  ซึ่งเป็นช่วงที่น้ำทะเลหนุนสูง ประกอบปริมาณน้ำเหนือที่จะไหลมาสมทบและฝนที่ยังคงตกต่อเนื่อง จะทำให้สถานการณ์เลวร้ายขึ้นอีก ตนจึงยกระดับมาตรการต่างๆให้เข้มข้นขึ้นสำหรับแผนอพยพ มอบให้สำนักงานเขตประเมินสถานการณ์ โดยภาวะที่ต้องเริ่มอพยพคือเมื่อไม่สามารถประกอบอาหารหรืออยู่อาศัยในบ้านได้ โดยจัดเตรียมสถานที่พักชั่วคราวตามโรงเรียนสังกัดกทม.ทุกเขต  เตรียมบุคลากรเจ้าหน้าที่โดยใช้กำลังอาสาสมัครป้องกันและบรรเทาสาธารณภัย (อปพร.) เป็นหลัก   สำรวจเส้นทางการอพยพ การเคลื่อนย้ายคน เตรียมถุงนอน โดยสำนักพัฒนาสังคมมีอยู่ขณะนี้แล้ว 1,000 ชุด  โดยต้องดูแลผู้อพยพครบวงจรทั้งเรื่องอาหาร และที่อยู่อาศัย   รวมทั้งการเคลื่อนย้ายกลับ และการดูแลฟื้นฟูหลังน้ำลดทั้งเรื่องการประกอบอาชีพและด้านจิตใจด้วย โดยหลังจากนี้ให้แต่ละเขตเสนอแผนที่ชัดเจนกลับมาภายใน 3 วัน 

ผู้สื่อข่าวรายงานว่า  ขณะเดียวกันประชาชนในกทม. เริ่มเกิดกังวลว่าจะเกิดอุทกภัยครั้งใหญ่ ใน กทม. จึงได้แห่ไปซื้ออาหารแห้ง และสด

จากห้างสรรพสินค้าแลร้านสะดวกซื้อต่างๆมา กักตุนไว้จน ทำให้อาหารกลุ่มบะหมี่สำเร็จรูป เครื่องกระป๋อง  ถูกขายจนหมดเกลี้ยง และพนักงานต้องนำสินค้าไปเติมหลายครั้ง  แต่ก็ยังไม่เพียงพอกับความต้องการของประชาชน  โดยผู้สื่อข่าวได้รายงานข่าวจาก ศูนย์การค้าเซ็นทรัล พลาซา แจ้งวัฒนะ ว่า บรรยากาศการจับจ่ายในร้าน ท็อปส์  เป็นไปด้วยความคึกคัก เนื่องจาก ประชาชนจำนวนมากได้แห่ไปซื้อสินค้า บะหมี่สำเร็จรูป โจ๊กถ้วย น้ำดื่มขวดใหญ่ ไปกักตุนไว้ในบ้านจำนวนมาก จนสินค้าหมดไปในพริบตา 

นอกจากนี้ มีประชาชนในพื้นที่ จ.ปทุมธานี เกาะเกร็ด จ.นนทบุรี และบริเวณใกล้เคียง แห่เข้ามาจอดรถในศูนย์การค้าจำนวนมาก

เพราะเกรงว่าระดับน้ำจะท่วมสูงจนมิดคันรถ  ขณะที่ประชาชนบางส่วนยังเกิดปัญหาหาซื้อถุงทรายไม่ได้  เนื่องจากผู้ค้าได้ปรับราคาถุงทรายขึ้นเป็นเท่าตัวจากเดิม 30-35 บาท เป็น 60-65 บาท สร้างความ เดือดร้อนให้ประชาชนที่ได้รับความเดือดร้อนจากน้ำท่วมซ้ำเข้าไปอีก.