ที่ประชุมโยนกันวุ่น ตรวจสอบพระฉาว ไร้เงาข้าราชการชั้นผู้ใหญ่เข้าร่วมประชุม สรุปรอตรวจสอบข้อเท็จจริงภายใน 7 วัน
วันนี้ (28 ก.ย.) ที่ห้องประชุมสำนักงานทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม จังหวัดเพชรบูรณ์ นายสุรพล ชูจันทร์ เจ้าพนักงานที่ดินจังหวัดเพชรบูรณ์ เป็นประธานจัดประชุม เรื่อง การตรวจสอบที่ดินที่พักสงฆ์ป่าสามแยก ต.วังกวาง อ.น้ำหนาว จ.เพชรบูรณ์ โดยมีเจ้าหน้าที่ที่เกี่ยวข้องร่วมประชุมด้วย อาทิ พระเทพรัตนกวี เจ้าคณะจังหวัดฝ่ายมหานิกาย พระครูวัชรธรรมาจารย์ ผู้แทนเจ้าคณะจังหวัด ฝ่ายธรรมยุติ และเจ้าคณะอำเภอทั้งสองนิกาย นายชิต อินทระนก เจ้าพนักงานป่าไม้อาวุโส ทำหน้าที่หัวหน้าศูนย์ประสานงานป่าไม้เพชรบูรณ์ นายอุดร จันทิมา หัวหน้าอุทยานแห่งชาติเขาค้อ นายฟูศักดิ์ เดชกล้า นายอำเภอน้ำหนาว นายธนทัย คำกลาง วัฒนธรรมจังหวัด และ นายไพฑูรย์ เจียมวิจิตร์ นักวิชาการป่าไม้ชำนาญการ รักษาราชการแทนผู้อำนวยการสำนักงานทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อมจังหวัด
โดยในที่ประชุมมีการหารือถึงเรื่องการตรวจสอบที่ดินที่พักสงฆ์ป่าสามแยก ที่ พระเกษม เป็นเจ้าสำนักอยู่ ว่า
ดำเนินการถูกต้องตามที่มีการขออนุญาตใช้พื้นที่ 100 ไร่ หรือไม่ ซึ่งหลายฝ่ายมีการพิจารณาหลักฐานต่าง ๆ ทั้งภาพถ่าย และเอกสารอื่น ๆ ต่างระบุว่า น่าจะทำผิดเงื่อนไข โดยเฉพาะการอนุญาตใช้พื้นที่ป่า มีข้อห้ามมิให้ปลูกสิ่งก่อสร้างถาวร รวมไปถึงภิกษุสงฆ์จะต้องช่วยดูแลอนุรักษ์พื้นที่ป่า และช่วยประชาสัมพันธ์ให้ชาวบ้านเข้ามาช่วยดูแล และข้อแปลกย่อยอื่น ๆ
ผู้สื่อข่าวรายงานว่า ในที่ประชุมยังมีการวิพากษ์วิจารณ์ถึงพฤติกรรมอันไม่เหมาะสมของพระเกษมอย่างตรงไปตรงมา
และมีการพยายามเร่งรัดหาข้อสรุปที่ชัดเจน เพื่อดำเนินการทั้งกับพระเกษม และเรื่องที่ดิน จนเป็นที่สังเกตว่าในที่ประชุมแต่ละฝ่ายต่างโยนกันไปโยนกันมา โดยทางฝ่ายคณะสงฆ์ก็ยอมรับว่า พฤติกรรมของพระเกษมถือได้ว่าเป็นสิ่งที่ทำให้ชาวพุทธสะเทือนใจ ทั้งการกล่าวท้าทาย และจาบจ้วงพระชั้นผู้ใหญ่ และไม่ยอมรับการสั่งการใด ๆ ของพระบังคับบัญชา ขณะที่ ทางฝ่ายเจ้าหน้าที่ต่างก็ออกตัวว่า การจะกระทำสิ่งใดลงไป ทางคณะสงฆ์ก็ต้องเห็นด้วย และจะต้องรอคำสั่งจากคณะสงฆ์ เพราะเป็นเรื่องเกี่ยวกับพระ
พระครูวัชรธรรมาจารย์ ผู้แทนเจ้าคณะจังหวัดฯ ฝ่ายธรรมยุติ กล่าวว่า การกระทำของพระเกษมที่แสดงพฤติกรรมต่าง ๆ นั้น ล้วนเป็นที่สะเทือนใจชาวพุทธ
ทั้งการขัดคำสั่งพระบังคับบัญชา และกล่าวติเตียนดูหมิ่นพระเถระ และอื่น ๆ ความจริงเรื่องพื้นที่ป่าหากพบว่าผิด อันนี้เจ้าหน้าที่บ้านเมืองต้องดำเนินการ เพราะเป็นเรื่องของทางโลก จะมาให้พระเข้าไปจับได้อย่างไร เราไม่มีอำนาจตรงนั้น และที่ผ่านมา ทางสงฆ์เองก็ได้ดำเนินการในส่วนของสงฆ์ไปแล้ว เช่น เรียกเค้ามาสอบสวน แต่เค้าไม่มา
นายธนทัย คำกลาง วัฒนธรรมจังหวัดเพชรบูรณ์ กล่าวว่า เรื่องนี้ทั้งฝ่ายสงฆ์ และเจ้าหน้าที่เกี่ยวข้องทุกฝ่ายต้องดำเนินการขั้นเด็ดขาด
เพราะถือเป็นเรื่องที่เสื่อมเสียต่อพระพุทธศาสนาอย่างยิ่ง โดยเฉพาะคลิปที่เผยแพร่ไปทั่วโลก ย่อมทำให้ชาวพุทธทุกประเทศต่างรู้สึกสะเทือน ยอมรับไม่ได้ และหากมีการปล่อยปละละเลย ก็อาจจะทำให้เกิดการเลียนแบบพฤติกรรมดังกล่าวได้ ซึ่งหากเกิดขึ้นจริง ก็จะยิ่งทำให้ศาสนาเสื่อมเสียไปในวงกว้าง
ทั้งนี้ ตอนท้ายของที่ประชุมได้หาข้อสรุป โดยจะให้ทางเจ้าหน้าที่ป่าไม้เข้าไปดำเนินการตรวจสอบข้อเท็จจริงภายใน 7 วัน ว่า ที่พักสงฆ์ดังกล่าว ทำผิดเงื่อนไขหรือไม่ รวมทั้งความผิดอื่น ๆ เกี่ยวกับการขอใช้พื้นที่ และการประพฤติของพระเกษม และหากพบมีความผิด ก็จะมีการดำเนินการขั้นเด็ดขาด
ผู้สื่อข่าวรายงานเพิ่มเติมว่า ในที่ประชุมยังระบุว่า ได้รับรายงานว่า ก่อนหน้านี้มีผู้ร้องเรียนไปยังตำรวจกองปราบ เพื่อให้มาดำเนินการเรื่องนี้
เพราะเห็นว่าทางเจ้าหน้าที่ส่วนต่าง ๆ ภายในจังหวัดไม่กล้าที่จะดำเนินการ อย่างไรก็ตาม เป็นที่สังเกตว่า ในการประชุมครั้งนี้ไม่มีข้าราชการชั้นผู้ใหญ่ ระดับผู้บริหาร มาเป็นประธานการประชุม และเข้าร่วมประชุม จนมีเสียงวิพากษ์วิจารณ์ว่า ข้าราชการระดับสูงต่างก็ไม่อยากที่จะมายุ่งกับเรื่องดังกล่าว ขณะเดียวกัน มีรายงานว่า เจ้าหน้าที่จากกรมป่าไม้ กรมอุทยานสัตว์ป่าและพรรณพืช และเจ้าหน้าที่ทหาร จะสนธิกำลังเข้าตรวจสอบที่พักสงฆ์ดังกล่าวในเร็ว ๆ นี้.