สตง. แฉซ้ำ CCTV กทม. ของจริง ล็อตปี 53 ใช้งบ 126 ล. ซื้่อมาแล้วใช้ไม่ได้ เหตุไม่ยอมต่อไฟ ปปช. รับลูก ชงสอบ 27 ก.ย.นี้ ด้านบิ๊ก กทม. โอด ถูกโยงประเด็นการเมือง หวังผลเลือกตั้งผู้ว่าฯกทม.-สนามใหญ่
นายพิศิษฐ์ ลีลาวชิโรภาส รองผู้ว่าการตรวจเงินแผ่นดิน รักษาราชการผู้ตรวจเงินแผ่นดิน เปิดเผยถึงการตรวจสอบกล้องซีซีทีวี ของ กทม. ที่มีการติดตั้งกล้องปลอม หรือ "กล้องดัมมี่" ว่า เมื่อปรากฏเป็นข่าว เขาก็ได้มอบหมายให้เจ้าหน้าที่เรียกข้อมูลที่เกี่ยวข้องมาดูทั้งหมด เพื่อรักษาผลประโยชน์ของประชาชนและประเทศชาติ
ทั้งนี้ จะต้องเรียกดูสัญญา และทีโออาร์ว่า มีการระบุอย่างไรบ้าง อย่างไรก็ตาม การที่มีการติดตั้ง "กล้องดัมมี่" ไม่ถือว่า เป็นความผิด เพราะเป็นการติดเพื่อป้องปรามการกระทำ แต่ต้องดูว่า สัญญาที่ทำ หรืองบประมาณที่ขอมานั้น เป็นการขอซื้อ "กล้องดัมมี่" ด้วยหรือไม่
"หากงบประมาณหรือรายงานที่เสนอมานั้น บอกว่า เป็นการซื้อเฉพาะกล้องจริง แต่มีการสอดแทรก "กล้องดัมมี่" มาด้วย ก็ต้องถือว่า ผิด"
นายพิศิษฐ์ กล่าวว่า การตรวจสอบขั้นแรก คือต้องดูว่า สัญญาเขียนอย่างไร ถูกต้องหรือไม่ จากนั้น ก็ต้องตรวจว่าจำนวนกล้องจริงที่ซื้อมา มีครบตามที่ระบุเอาไว้หรือไม่ โดย สตง.จะตรวจสอบให้เสร็จในไม่ช้า เพราะรู้ว่า ประชาชนตั้งข้อสงสัย และอยากรู้ว่า งบประมาณที่จัดซื้อไปนั้นมีความถูกต้องหรือไม่
อย่างไรก็ตาม เรื่องนี้ ต้องมีความรอบคอบ เพราะเป็นเรื่องละเอียดอ่อน อีกทั้งเป็นเรื่องที่เกิดขึ้นมาเป็นเวลานานแล้ว จึงอาจจะใช้เวลาสักเล็กน้อย
"เรื่องนี้ ไม่ว่าจะเป็นประชาชนร้องมา หรือพรรคเพื่อไทยร้องมา หรือไม่มีใครร้องเรา ก็ต้องตรวจสอบ เพื่อรักษาผลประโยชน์ของประเทศ" นายพิสิษฐ์กล่าว
นายพิศิษฐ์ ยังเปิดเผยด้วยว่า ก่อนที่จะมีข่าวเรื่องนี้ สตง. ก็ได้ไปตรวจสัญญาการจ้างเหมา ซื้อกล้องซีซีทีวี ของ กทม. ใน ปี 2553 ที่เริ่มสัญญาเมื่อเดือน มิ.ย. 2553 และ เสร็จสิ้นสัญญาในเดือนธันวาคมของปีเดียวกัน ในวงเงิน 126 ล้านบาท ซึ่งเมื่อไปสุ่มตรวจกลับพบว่า บางส่วนกลับไม่ได้บรรจบไฟ ทำให้กล้องที่ซื้อมานั้น แม้จะติดตั้งแล้ว แต่ก็ใช้งานไม่ได้ จึงยังไม่สามารถเซ็นมอบงานได้
นายพิศิษฐ์ กล่าวว่า เมื่อทราบเรื่องแล้ว สตง. ได้สอบถามไปยัง กทม. ก็ได้รับคำตอบว่า ยังไม่สามารถเจรจากับการไฟฟ้านครหลวง (กฟน.) จึงไม่มีการปล่อยสัญญานไฟมา ซึ่งเราก็ได้สอบถามกลับไปอีกครั้ง แต่ก็ยังไม่ได้รับคำตอบ
"หากเป็นอย่างนี้ ก็น่าเป็นห่วง เพราะจะทำให้มิจฉาชีพไม่เกรงกลัว หากตรวจรับเร็ว ก็เป็นประโยชน์เร็ว อีกทั้งหากติดตั้งกล้องทิ้งไว้นาน ก็อาจจะทำให้กล้องเสียหาย เป็นการสูญเสียงบประมาณได้" นายพิศิษฐ์กล่าว
ปปช. รวบรวมข้อมูล ชงชุดใหญ่ตรวจสอบ 27 ก.ย.นี้
นายกล้าณรงค์ จันทิก กรรมการ ปปช. เปิดเผยว่า ขณะนี้ เจ้าหน้าที่ด้านฝ่ายข่าว ของ ปปช. กำลังรวบรวมข้อมูลข่าวสารของสื่อมวชน โดยเฉพาะหนังสือพิมพ์ที่นำเสนอข่าวการติดตั้งกล้องวงจรปิดของกทม. ที่พบว่า บางจุดมีการติดตั้งกล้องหลอก
ทั้งนี้ คาดว่า เจ้าหน้าที่จะประมวลข้อมูลเสร็จภายในวันที่ 22 ก.ย.54 และเสนอให้คณะกรรมการ ปปช. พิจารณาในวันที่ 27 ก.ย.นี้ โดยเบื้่องต้นคาดว่า จะรับเรื่องนี้ไว้พิจารณา
บิ๊ก กทม. โบ้ย การเมือง พท. เล่นงาน หวังผลเลือกต้ังผู้ว่าฯกทม.-สนามใหญ่
มีรายงานจากผู้บริหารระดับสูง ของ กทม. แจ้งว่า กรณีเรื่อง "กล้องดัมมี่" ของ กทม. ที่ถูกวิพากษ์วิจารณ์อย่างมากนั้น ส่วนหนึ่งเป็นเรื่องของการเมือง ที่มีกระบวนการตีใส่ มรว.สุขุมพันธุ์ บริพัตร ผู้ว่าฯกทม.ให้ช้ำ ก่อนหมดวาระการทำหน้าที่ผู้ว่าฯกทม.อีก 277 วัน เพราะขณะนี้ 2 พรรคการเมืองใหญ่ ทั้งพรรคเพื่อไทยและพรรคประชาธิปัตย์ กำลังงัดกันอยู่ ซึ่งหากประเด็น "กล้องดัมมี่" จบไปแล้ว ก็จะมีการลุยเรื่องอื่นของกทม.อีก
รายงานระบุด้วยว่า ที่ผ่านมา พรรคเพื่อไทยสามารถยึดได้ทุกที่ แต่ยังเหลือพื้นที่ กทม. และ ภาคใต้ เท่านั้น ที่ยังเป็นพื้นที่ของพรรคประชาธิปัตย์ ดังนั้น จากนี้จะเริ่มมีกระบวนการดิสเครดิตพรรคประชาธิปัตย์อย่างต่อเนื่อง โดยเฉพาะเครือข่ายหลายหลายกลุ่ม รวมทั้งในโลกออนไลน์เช่นกัน แต่ก็ขึ้นอยู่กับว่า คนที่อยู่ตรงกลาง จะเชื่อใครมากกว่ากัน
ทั้งนี้ หากพบว่า ฝ่ายใดฝ่ายหนึ่ง มีการโกหกจริง คงจะกระทบกับการเลือกตั้งใหญ่ และการเลือกตั้งกทม. ในครั้งต่อไปแน่นอน