สุขุมพันธุ์-อภิรักษ์แจงวุ่นติดกล้องกลวง

วันที่ 20 ก.ย. ม.ร.ว.สุขุมพันธุ์ บริพัตร ผู้ว่าฯ กทม. กล่าวถึงการตรวจสอบกล้องวงจรปิดทั่วพื้นที่กรุงเทพฯ ว่า
 
ขณะนี้กำลังเร่งสำรวจกล้องวงจรปิดเปล่าๆ ที่เป็นปัญหาอยู่ ซึ่งก็พบกล้องหลอกด้วยความตั้งใจ เพราะคงไม่สามารถติดตั้งกล้องวงจรปิดให้ครบได้ เช่นเดียวกับประเทศต่างๆ ก็ติตตั้งกล้องหลอกในลักษณะนี้เช่นกัน และไม่ได้ติดตั้งกล้องจริงทุกจุด ซึ่งกล้องหลอกหรือกล้องดัมมี่ที่พบส่วนใหญ่จะถูกติดตั้งในยุคที่ผ่านมา แต่หากตรวจสอบจากการจัดซื้อจะพบว่า กทม.ได้ทำอย่างถูกต้อง ครบถ้วนและไม่มีปัญหา โดยขณะนี้เราติดตั้งกล้องวงจรปิดไปแล้วทั้งสิ้น 2 หมื่นเครื่อง ตามนโยบายประชาวิวัตน์ของรัฐบาลชุดที่ผ่านมา ซึ่งกล้องในส่วนนี้เป็นของจริงทั้งหมด เพราะในสมัยของตนไม่มีการติดตั้งกล้องดัมมี่ ซึ่งประชาชนสามารถติดต่อขอดูภาพได้ เพราะกทม.ได้เชื่อมสัญญาณกับสถานีตำรวจ และศาลาว่าการกทม. นอกจากนั้น วันเดียวกันนี้ ทางกทม. ยังนำผู้สื่อข่าวไปชมการทำงานในห้องคอนโทรลของระบบกล้องวงจรปิด 10,000 ตัวทั่วกทม. อีกด้วย

 ที่พรรคประชาธิปัตย์ นายอภิรักษ์ โกษะโยธิน ส.ส.ระบบบัญชีรายชื่อ พรรคประชาธิปัตย์ ในฐานะอดีตผู้ว่าฯ กทม. กล่าวว่า

ตนไม่ได้เกี่ยวข้องกับการติดตั้งกล้องวงจรปิดเพื่อใช้ในช่วงการชุมนุมทางการเมืองปี 2552 เพราะห้วงเวลาดังกล่าวได้พ้นจากตำแหน่งผู้ว่าฯ กทม.แล้ว ส่วนการติดตั้งกล้องดัมมี่นั้นยอมรับว่าดำเนินการจริง เพราะในช่วงต้นปี 2550 มีเหตุการณ์ลอบวางระเบิดในพื้นที่กรุงเทพฯ ซึ่งขณะนั้นมีกล้องวงจรปิดเพียงไม่กี่หลักร้อยเครื่องเท่านั้น ส่วนใหญ่จะเป็นเพียงกล้องจราจร ดังนั้นหน่วยงานที่เกี่ยวข้องจึงเสนอแนวทางติดตั้งกล้องวงจรปิดเพิ่มเติม เพื่อเพิ่มมาตรการด้านความมั่นคง แต่มีข้อจำกัดด้านงบประมาณ ทำให้ไม่สามารถดำเนินการติดตั้งกล้องวงจรปิดให้ครบถ้วนทุกจุดได้ จึงต้องออกสำรวจและติดตั้งกล่องเปล่า เพื่อกำหนดจุดติดตั้ง ก่อนดำเนินการติดตั้งกล้องจริงให้ครบถ้วนเมื่อมีงบประมาณ ซึ่งในส่วนของรายละเอียดทั้งหมดเกี่ยวกับงบประมาณหรือการจัดซื้อ เป็นเรื่องที่สำนักการจราจรและขนส่ง(สจส.) ต้องชี้แจง

 “ผมขอยืนยันถึงความโปร่งใส และสามารถชี้แจงรายละเอียดการจัดซื้อได้ เพราะประเด็นนี้ไม่ใช่เรื่องการติดตั้งหรือไม่ เนื่องจากไม่มีเรื่องของการเบิกเงินติดตั้งกล้องจริงและนำกล่องเปล่าไปติดตั้งแทนแน่นอน รวมทั้งวัตถุประสงค์ก็ทำเพื่อเฝ้าระวังความปลอดภัย โดยกำหนดจุดติดตั้งกล้องไว้และนำกล่องเปล่าไปติดในจุดที่กำหนด เพื่อรอการติดตั้งกล้องจริงภายหลัง ส่วนที่ระบุว่าติดตั้งกล่องเปล่า เพื่อใช้ในช่วงการชุมนุมทางการเมืองในปี 52 นั้น น่าจะมีความคลาดเคลื่อน เพราะผมลาออกจากตำแหน่งผู้ว่าฯ กทม. เมื่อเดือน พ.ย.51 ดังนั้นจึงไม่น่าจะเกี่ยวข้องกับการชุมนุมในปี 52” นายอภิรักษ์กล่าว

 รายงานข่าวจากจากข้าราชการระดับสูงของกทม. เผยว่า  กรณีที่มีข่าวกทม. ติดตั้งกล้องหลอก หรือ กล้องดัมมี่ จำนวน 500 ตัวนั้น

เป็นการจัดซื้อในโครงการที่ถูกตั้งขึ้นในงบประมาณปี 2550 สมัยนายอภิรักษ์ โกษะโยธิน เป็นผู้ว่าฯกทม. เนื่องจากช่วงนั้นมีการชุมนุมทางการเมืองได้เกิดเหตุระเบิดที่ห้างสรรพสินค้าเซ็นทรัลเวิร์ด ดังนั้น รัฐบาลก็ได้สั่งให้มีการติดตั้งกล้องโทรทัศน์วงจรปิด ซึ่งหากจะติดตั้งกล้องให้ครบทั้งหมด จะต้องใช้เงินจำนวนมหาศาล เพราะตัวหนึ่งมีราคาเกือบ 3 แสนบาท ดังนั้น กทม.จึงต้องดำเนินการเช่นเดียวกับประเทศอังกฤษและแม็กซิโก ในการขู่และป้องปรามการชุมนุม กทม.จึงมีแนวคิดนำการติดตั้งกล้องหลอกมาใช้ร่วมกับกล้องที่ทำงานได้จริง จนกระทั่งม.ร.ว.สุขุมพันธุ์ บริพัตร ผู้ว่าฯกทม. เข้ามาดำรงตำแหน่ง สจส. ได้เสนอให้เดินหน้าโครงการอย่างต่อเนื่อง เนื่องจากเป็นงบประมาณผูกพันตามโครงการเดิม มาตั้งแต่ปี 2549-2550 ที่รัฐบาลอุดหนุนให้กทม.ดำเนินการ

 ทั้งนี้ โครงการจัดซื้อกล้องดัมมี่ มีอยู่ 2 ช่วง โดยช่วงแรก มีการจัดซื้อไปจำนวน 242 ตัว ในราคา 2,900 บาทต่อตัว รวมเป็นเงินงบประมาณ 701,800

  ช่วงที่ 2 มีการจัดซื้ออีก จำนวน 373 ตัว ราคา 2,700 บาทต่อตัว งบประมาณ 1,007,100 บาท รวมทั้งสองช่วงเป็นเงินงบประมาณทั้งสิ้น 1,708,900 บาท หลังจากนี้กทม.จะดำเนินการตามนโยบายโครงการติดตั้งกล้องโทรทัศน์วงจรปิด ตามนโยบายประชาวิวัฒน์ โดยจะนำกล้องจริง มาติดตั้งในจุดที่เป็นกล้องหลอกให้ครบทั้งหมด ส่วนโครงการติดตั้งกล้อง 2 หมื่นจุดทั่วกทม.นั้น กทม. ยืนยันจะดำเนินการติดตั้งกล้องโทรทัศน์วงจรปิดตัวจริงทั้งหมดต่อไป อย่างไรก็ตาม ม.ร.ว.สุขุมพันธุ์ เตรียมแถลงข่าวเรื่องดังกล่าวในวันพรุ่งนี้ (21 ก.ย.) ที่ศาลาว่าการกทม. เวลา 10.30 น. โดยผู้ว่าฯ กทม.จะเป็นผู้ชี้แจงรายละเอียดเรื่องดังกล่าวทั้งหมดด้วยตัวเอง