เมื่อ 19 ก.ย. บีบีซีรายงานว่า ประธานาธิบดี บารัก โอบามา ของสหรัฐ
จะขอให้ตัดลดยอดขาดดุลงบประมาณลงอีก 3 ล้านล้านดอลลาร์สหรัฐ หรือราว 90 ล้านล้านบาท ในระยะเวลา 10 ปี โดยระบุว่า รายได้กว่าครึ่งหนึ่งจะมาจากการขึ้นภาษีเงินได้ หลังจากเมื่อ 18 ก.ย. ที่ผ่านมา นายโอบามาเพิ่งเสนอร่างกฎหมายเพิ่มอัตราภาษีผู้มีฐานะร่ำรวย หรือกลุ่มที่มีรายได้มากกว่า 1 ล้านดอลลาร์ตอปีขึ้นไป ตามหลักการของนายวอร์เรน บัฟเฟตต์ มหาเศรษฐีระดับโลกชาวอเมริกัน ที่เรียกว่า "บัฟเฟตต์ แท็กซ์"
อย่างไรก็ตาม คาดว่าพรรครีพับลิกันก็แถลงว่าจะคัดค้านแผนขึ้นภาษีครั้งนี้อย่างแน่นอน
ซึ่งโอบามาออกโรงเตือนพรรครีพับลิกันว่าตนจะใช้สิทธิยับยั้ง หรือการวีโต้ ทันที หากร่างกฎหมายใดก็ตามที่จะนำไปสู่การตัดลดงบประมาณสุขภาพผู้สูงอายุ แต่กลับไม่ขึ้นภาษีคนรวย ซึ่งโอบามาเห็นว่าไม่ยุติธรรม
ข้อเสนอเรื่องภาษีของประธานาธิบดีสหรัฐครั้งนี้ ระบุว่าจะเป็นการช่วยเพิ่มรายได้ให้กับรัฐครั้งใหญ่ราว 45 ล้านล้านบาท และข้อเสนอนี้จะสร้างหลักประกันให้แก่อนาคตการเงินการคลังระยะยาวของประเทศในช่วงที่เศรษฐกิจซบเซาหนัก