นายปรีดา วิบูลย์สวัสดิ์ ผู้เชี่ยวชาญด้านพลังงานและพลังงานทางเลือก
เปิดเผยภายในงานสัมมนาเรื่อง “งานวิจัยเชิงนโยบาย : แนวทางและความพร้อมการวางแผนการใช้แก๊สโซฮอล์ อี10 อี20 และอี85 ของประเทศ” ว่า ในอนาคตไทยควรปรับการใช้น้ำมันแก๊สโซฮอล์และเบนซินให้เหลือเพียงเกรดเดียวคือโซฮอล์อี20 เพื่อไม่ให้ผู้ค้าน้ำมันและผู้ใช้เกิดความสับสน รวมถึงให้สอดคล้องกับปริมาณเอทานอลในประเทศที่มีจำนวนมาก ขณะเดียวกันรัฐบาลควรเข้าไปซื้อรถยนต์เก่าที่ไม่สามารถใช้น้ำมันอี 20 ได้แล้วนำไปจำหน่ายประเทศเพื่อนบ้านแทน
“รัฐบาลต้องเร่งยกเลิกน้ำมันเบนซิน โซฮอล์ประเทศต่าง ๆ ที่ไม่ใช่อี 20 แล้วหันมาใช้รถใหม่ที่ใช้พลังงานทดแทนอย่างแก๊สโซฮอล์มากขึ้น โดยกระทรวงอุตสาหกรรมก็ควรออกมาตรการบังคับให้ผู้ผลิตรถยนต์และรถจักรยานยนต์ค่ายต่าง ๆ ผลิตรถอี20 ออกมาป้อนตลาดให้มากกว่านี้”
นายชวลิต พิชาลัย รองผู้อำนวยการสำนักงานนโยบายและแผนพลังงาน (สนพ.) กล่าวว่า
หากจะก้าวไปถึงจุดนั้นได้ก็จะต้องยกเลิกการจำหน่ายน้ำมันเบนซิน91 ก่อน รวมทั้งดูความพร้อมทั้งในเรื่องของโรงกลั่นน้ำมันด้วย เพราะถ้ายกเลิกขายเบนซิน91 น้ำมันเบนซินที่กลั่นเหลือก็จะต้องส่งออกแทน รวมถึงให้ดูปริมาณเอทานอลให้เพียงพอด้วย เพราะหากจะใช้แก๊สโซฮอล์อี20 เกรดเดียว หมายความว่าจะต้องใช้เอทานอลเพิ่มขึ้นเป็นวันละ 2 ล้านลิตร
ปัจจุบันประเทศไทยมีสถานีบริการน้ำมันทั่วประเทศ 14,000 แห่ง โดยจำนวนนี้เป็นสถานีบริการน้ำมันแก๊สโซฮอล์อี20 อยู่ 723 แห่ง หรือคิดเป็น 5%ของสถานีบริการน้ำมันทั้งหมด เป็นสถานีบริการแก๊สโซฮอล์อี85 จำนวน 23 แห่งหรือเพียง 0.2%
นายเสกสรรค์ พรหมนิช ผู้ชำนาญงานด้านเทคนิค บริษัท เพโทรกรีน จำกัด กล่าวว่า ปริมาณเอทานอลขณะนี้พอที่จะทำแก๊สโซฮอล์อี85 แล้วด้วยซ้ำ เพราะปัจจุบันกำลังการผลิตเอทานอลรวมทั้งหมดอยู่ที่ระดับ 20 ล้านลิตรต่อวัน.
กระทู้ร้อนแรงที่สุดของวันนี้
กระทู้ล่าสุด
รูปเด่นน่าดูที่สุดของวันนี้
