นอกจากนี้ยังประกาศราคาแนะนำหมูทั้งระบบตั้งแต่สุกรมีชีวิตหน้าฟาร์มในเขตกรุงเทพ ภาคกลาง ตะวันออก ตะวันตก
ลดจากราคาควบคุม กก.ละ 74-75 บาท เหลือ 70 บาท ภาคเหนือ ภาคตะวันออกเฉียงเหนือลดจาก 78-79 บาท เหลือ 74 บาท และภาคใต้ลดจาก 80-81 บาท เหลือ 76 บาท ส่งผลให้ราคาขายส่งสุกรชำแหละ (หมูซีก) ในเขตกรุงเทพ ภาคกลาง ตะวันออก ตะวันตก ภาคเหนือ ภาคตะวันออกเฉียงเหนือ และภาคใต้ ปรับลดลงตามเช่นกัน
นางวัชรี กล่าวว่า ขณะนี้มีหมูออกมาเพิ่มขึ้น ทำให้ปริมาณผลผลิตคลายความตรึงตัวและราคาปรับลดต่อเนื่อง
และหลังจากนี้จะติดตามและทบทวนต้นทุนหมูเป็นประจำทุกเดือน หากพบว่าต้นทุนลด และสถานการณ์ดีขึ้น ราคาขายปลีกจะต้องลดตามเพื่อดูแลค่าครองชีพให้มีความเป็นธรรม หลังจากก่อนนี้กรมได้ประกาศลดราคาเนื้อไก่ไปแล้ว กก.ละ 5-15 บาท และระหว่างนี้ยังให้เจ้าหน้าที่ออกตรวจสอบสถานการณ์ราคาและพฤติกรรมแผงหมูตามตลาดสด หากพบการขายเกินราคาก็จะดำเนินการตามกฎหมาย อย่างไรก็ตาม กรมการค้าภายในจะยังไม่พิจารณายกเลิกการห้ามส่งออกชั่วคราวสุกรมีชีวิตในช่วงนี้ เนื่องจากถือว่าสถานการณ์ราคาหมูยังไม่เข้าสู่ภาวะปกติ เพราะหากราคาหมูเป็นลดลงเหลือกก.ละ 65-66 บาท หรือเนื้อหมูสะโพก และไหล่เหลือไม่เกิน 120 บาท ถึงจะมีการพิจารณาผ่อนคลายมาตรการนี้อีกครั้ง โดยหากผู้ใดขายเกินราคาที่กำหนด มีโทษจำคุกไม่เกิน 7 ปี หรือปรับไม่เกิน 140,000 บาท หรือทั้งจำทั้งปรับ
“ส่วนการดูแลราคาสินค้าประเภทอื่น ขณะนี้ยังไม่มีนโยบายให้ปรับขึ้นราคาสินค้ารายการใด และขอความร่วมมือให้ส่วนใหญ่ตรึงราคาไปก่อนจนถึงสิ้นปี ขณะที่ราคาน้ำมันถั่วเหลืองจะมีการทบทวนปรับลดราคาลงมาจากราคาเพดานที่กำหนดขวดลิตรละ 55 บาท เพื่อให้ราคาน้ำมันถั่วเหลืองปรับลดราคาลงตามต้นทุนที่แท้จริง และสอดคล้องกับโครสร้างราคาน้ำมันพืชที่ก่อนหน้านี้น้ำมันปาล์มได้ปรับลดลงมาแล้ว สำหรับสถานการณ์น้ำมันปาล์มบรรจุขวด กรมจะยืนราคาเดิมไม่อนุมัติให้ปรับขึ้นราคา เพราะต้องการให้บริหารจัดการต้นทุน ช่วยเหลือประชาชนไปก่อน เนื่องจากราคาต้นทุนที่เปลี่ยนแปลงยังไม่สูงมากเกินไป” นางวัชรี กล่าว.