"เขื่อนภูมิพล-สิริกิติ์"วิกฤต!! กรมชลฯเผยรองรับน้ำเกือบเต็ม 100%
นายวีระ วงศ์แสงนาค รองอธิบดีกรมชลประทาน สั่งการให้เจ้าหน้าที่ชลประทานจับตาปริมาณน้ำในเขื่อนต่างๆ อย่างใกล้ชิด แบบวันต่อวัน เนื่องจากปริมาณน้ำในเขื่อนหลายแห่งมีระดับน้ำเพิ่มขึ้นอย่างต่อเนื่อง โดยเฉพาะเขื่อนภูมิพล เขื่อนสิริกิติ์ และเขื่อนป่าสักชลสิทธิ์ โดยคาดว่าภายในไม่เกิน 10 วัน หากระดับน้ำยังสูงขึ้นจะทำให้น้ำเต็มเขื่อน
ทั้งนี้ กรมชลประทานกำลังเร่งประชุมสรุปสถานการณ์น้ำ และหาแนวทางบริหารจัดการปริมาณน้ำ
โดยเฉพาะในเขื่อนภูมิพล และสิริกิติ์ ซึ่งกำลังอยู่ในขั้นวิกฤต โดยเขื่อนสิริกิติ์นั้นมีปริมาณน้ำ 96% ของความจุเขื่อน กรมชลประทานต้องปล่อยให้น้ำล้นออกมาโดยอัตโนมัติจนกว่าฝนจะหมด สำหรับเขื่อนภูมิพล ปัจจุบันมีปริมาณน้ำคิดเป็น 82% ของความจุเขื่อน ซึ่งรองรับน้ำเข้าเขื่อนได้อีก 2,000 ลูกบาศก์เมตร เท่านั้น
แม่น้ำเจ้าพระยาไหลทะลักแนวป้องกัน กว่า 700 หลังคาเรือน 3 ชุมชนปากน้ำโพจมใต้น้ำ
เมื่อเวลา 03.20 น. วันที่ 13 กันยายน ปริมาณน้ำจำนวนมากจากแม่น้ำเจ้าพระยา ที่จังหวัดนครสวรรค์ ได้ไหลทะลักแนวปัองกัน ทั้งแนวหินคลุก กระสอบทราย ที่เทศบาลนครนครสวรรค์ ทำแนวป้องกันที่ 3 ชุมชน ที่ชุมชนเดชาพัฒนา,ชุมชนวัดเขาจอมคีรีนาคพรต และชุมชนโบสถ์เทวดาสร้าง ทำให้บ้านเรือนกว่า 700 หลังคาต้องจมอยู่ใต้น้ำทันที ประชาชนเดือดร้อนนับพันคน ต้องขนย้ายสิ่งของกันอย่างโกลาหล ยังมีทรัพย์สินที่เสียหายจากน้ำทะลักเข้ามาแล้วเก็บไม่ทัน เช่น รถยนต์ รถจักรยานยนต์จำนวนหลายสิบคัน ส่วนทางด้านการช่วยเหลือ มีกำลังทหารจากมณฑลทหารบกที่ 31 ค่ายจิรประวัติ มาช่วยขนย้ายสิ่งของให้ พร้อมนำเรือท้องแบนมาช่วยคนย้าย พร้อมกับเทศบาลนครสวรรค์ เตรียมจัดตั้งเต้นท์พักชั่วคราวที่หน้าวัดเขาจอมคีรีนาคพรต ซึ่งเป็นลานพื้นที่สูง
สำหรับปริมาณน้ำที่จังหวัดนครสวรรค์ จะเพิ่มขึ้นอีกในวันสองวันนี้
เนื่องจากมีฝนตกด้านเหนือที่จังหวัดตาก และกำแพงเพชร จะส่งผลให้แม่น้ำปิงสูงขึ้นถึง 1,700 ลูกบาศก์เมตรต่อวินาที(ขณะนี้ 976 ลูกบาศก์เมตร) และจะทำให้อำเภอบรรพตพิสัย อำเภอเก้าเลี้ยว มีน้ำล้นตลิ่งได้ และจากมวลน้ำดังกล่าวจะส่งผลให้แม่น้ำเจ้าพระยาสูงขึ้นอีก 60- 80 เซนติเมตร โดยขณะไหลผ่านที่ 3,242 ลูกบาศก์เมตรต่อวินาที