เริ่มเป็นรูปเป็นร่างแล้วสำหรับนโยบาย"ประชานิยม"ของรัฐบาลเพื่อไทย โดยเฉพาะเรื่องที่ประชาชน คนทำงานที่เป็น"มนุษย์เงินเดือน"เฝ้ารอ คือบ้านหลังแรกกับรถยนต์คันแรก ที่จะได้สิทธิลดหย่อนภาษี
ล่าสุดในส่วนของบ้านหลังแรกนั้น เมื่อวันที่11ก.ย.ที่ผ่านมา
นายสาธิต รังคสิริ อธิบดีกรมสรรพากร ออกมาเปิดเผยหลักเกณฑ์โครงการดังกล่าวว่า จะต้องเป็นบ้านราคาไม่เกิน 5 ล้านบาท เพิ่มจากก่อนหน้านี้ที่ระบุว่าราคาไม่เกิน 3 ล้านบาท และสามารถหักลดหย่อนภาษีได้ไม่เกิน 3 แสนบาท เป็นระยะเวลา 5 ปี แต่ผู้ที่จะได้สิทธิ์ต้องอยู่ใน"ระบบภาษี"ที่เป็นผู้ซื้อบ้านหลังแรกเท่านั้น
ส่วนวงเงิน 3 แสนบาทที่นำมาหักลดหย่อนนั้น จะเป็นการทยอยหักลดเป็นระยะเวลา 5 ปี หรือปีละ 6 หมื่นบาท ซึ่งทางสรรพากรจะนำรายละเอียดเสนอที่ประชุมคณะรัฐมนตรีโดยเร็วที่สุด แต่ยังไม่ระบุว่าจะเป็นวันไหน
ทั้งนี้กรมสรรพากรคาดว่า จากนโยบายดังกล่าวจะทำให้รายได้ของกรมสรรพากรหายไปประมาณ 1 พันล้านบาท ซึ่งในปีงบประมาณ 2554 ที่กำลังจะสิ้นสุดปลายเดือนก.ย.นี้ คาดว่าจะสามารถจัดเก็บภาษีได้รวม 1.4-1.5 ล้านล้านบาท หรือเพิ่มขึ้นจากปีก่อนหน้าประมาณร้อยละ 20.5 ซึ่งไม่กระทบต่อรายได้ของสรรพากร
ปัจจุบัน มีผู้ยื่นแบบภาษีบุคคลธรรมดาประมาณ 10 ล้านคน มีผู้ยื่นแบบและเสียภาษีจำนวน 2 ล้านคนเท่านั้น ซึ่งคนกลุ่มนี้ จะได้สิทธิ์นโยบายบ้านหลังแรก และสามารถนำรายจ่ายค่าซื้อบ้านมาหักลดหย่อนได้ในช่วงปลายปี หรือช่วงการยื่นภาษีได้