สถานการณ์น้ำท่วม จ.พิษณุโลก ขณะนี้หนักอยู่ 3 อำเภอ
คือ อำเภอวังทอง น้ำที่ไหลล้นตลิ่งยังคงท่วมขังในต.วังทอง ต.วังพิกุล เป็นวงกว้าง แต่ระดับน้ำที่ท่วมเริ่มทรงแล้ว อำเภอบางระกำ แม้ว่าระดับน้ำแม่น้ำยมจะลดลงไปมาก แต่พื้นที่ท่วมขังก็ยังท่วมสูงวงกว้างเช่นกัน ขณะที่ อ.เมืองพิษณุโลก แม้ว่าจะยังไม่ได้รับผลกระทบจากน้ำท่วมรอบนี้อย่างจัง แต่ขณะนี้ปริมาณน้ำของแม่น้ำน่านช่วงไหลผ่านเมืองพิษณุโลกอยู่ในสถานการณ์น่าห่วงเป็นอย่างมาก ระดับน้ำแม่น้ำน่าน วัดที่เชิงสะพานเอกาทศรถ อ.เมืองพิษณุโลก เวลา 06.00 น.วันที่ 11 กันยายน 2554 อยู่ที่ 10.52 เมตร
โดยทำลายสถิติสูงสุดนับแต่น้ำท่วมใหญ่เมืองพิษณุโลกเมื่อเดือน 28 กันยายน 2538
ที่แม่น้ำน่านเชิงสะพานเอกาทศรถวัดระดับได้ 10.51 เมตร และขณะนี้มีแนวโน้มว่าแม่น้ำน่านช่วงไหลผ่านเมืองพิษณุโลกจะยังคงเพิ่มระดับสูงขึ้นอีก 5-10 เซนติเมตรในเย็นวันนี้ เมื่อปริมาณน้ำจากอ.น้ำปาด และคลองตรอน จ.อุตรดิตถ์ไหลมาสมทบเพิ่ม อย่างไรก็ตาม แม่น้ำน่านระดับ 10.52 เมตร ยังไม่กระทบล้นตลิ่งในเขตเทศบาลนครพิษณุโลก เนื่องจากมีการทำแนวกระสอบทรายกั้นในจุดต่ำ ที่สวนชมน่านฯ ประชาชนตื่นเต้นกับระดับน้ำที่เพิ่มสูงสุด ส่วนพื้นที่ทางเหนือเทศบาลนครพิษณุโลก ต.จอมทอง บริเวณม.7 ม.9 กำลังได้รับผลกระทบอย่างหนักจากแม่น้ำน่านและแม่น้ำแควน้อยไหลล้นตลิ่ง เข้าท่วมบ้านเรือนประชาชนวงกว้าง
นายบรรดิษฐ์ อินต๊ะ ผู้อำนวยการโครงการชลประทานจังหวัดพิษณุโลก
เปิดเผยว่า สถานการณ์แม่น้ำน่านช่วงไหลผ่านเมืองพิษณุโลกน่าเป็นห่วงอย่างมาก ระดับน้ำได้เพิ่มสูงสุดทำลายสถิติเมื่อปี 2538 ไปแล้ววันนี้ โดยแม่น้ำน่านเมืองพิษณุโลกมีความสูง 10.52 เมตร เนื่องจากน้ำฝนที่ตกหนักมากในเขตจ.อุตรดิตถ์ เมื่อวานนี้ เขื่อนแควน้อยบำรุงแดน อ.วัดโบสถ์ จ.พิษณุโลก มีน้ำไหลเข้า 40 ล้านลบ.ม. มีน้ำ 96 % แล้ว ได้ชะลอการระบายน้ำจากเขื่อนแควน้อยออกมาแค่วันละ 10ล้านลบ.ม. คาดว่าวันนี้จะมีน้ำเข้าเขื่อนแควน้อยอีก 30 ล้านลบ.ม. คงเต็มความจุ 100 % และน้ำเข้ามาเท่าไหร่ คงระบายออกสู่แม่น้ำแควน้อยมาเท่านั้น
ส่วนเขื่อนสิริกิติ์ จ.อุตรดิตถ์ มีน้ำไหลเข้าวันละ 116 ล้านลบ.ม. เขื่อนสิริกิติ์ระบายน้ำออกในปริมาณเท่าเดิมวันละ 65 ล้านลบ.ม.
แม่น้ำน่านช่วงไหลผ่านเมืองพิษณุโลกที่เพิ่มสูงขึ้นมาจากน้ำฝนที่ตกท้ายเขื่อนในอ.น้ำปาด อ.ตรอน จ.อุตรดิตถ์ คาดว่าน้ำก้อนใหญ่จะมาถึงเมืองพิษณุโลกในช่วงเย็นวันนี้ 11 กันยายน 2554 ชลประทานพิษณุโลกได้บริหารน้ำร่วมกับเทศบาลนครพิษณุโลกตลอด คาดการณ์ว่าช่วงเย็นนี้แม่น้ำน่านเมืองพิษณุโลกจะอยู่ที่ความสูงประมาณ 10.60-10.65 เมตร จะพยายามป้องกันไม่ให้ล้นตลิ่งในเขตเทศบาลนครพิษณุโลก
นายบรรดิษฐ์ กล่าวว่า เมื่อวาน (10 ก.ย.) เขื่อนแควน้อยได้พยายามหน่วงน้ำเต็มที
ไม่ให้น้ำแควน้อยมาสมทบแม่น้ำน่าน จึงระบายลงแค่วันละ 10 ล้านลบ.ม. ( จากปกติ 30 ล้านลบ.ม.ต่อวัน ) และชลประทานได้บริหารจัดการน้ำโดยหน่วงน้ำที่เขื่อนนเรศวรอ.พรหมพิราม จ.พิษณุโลก ระบายน้ำลงสู่คลองชลประทานโครงการพลายชุมชน และคลองเมม เกษตรกรและชาวอ.พรหมพิรามคงได้รับผลกระทบบ้าง และนับจากนี้ ยังต้องเฝ้าระวังบริหารจัดการน้ำอย่างใกล้ชิด เพราะนับจากนี้ เขื่อนแควน้อยคงเต็ม 100 % แล้ว และเมื่อน้ำจากน้ำปาดไหลผ่านเมืองพิษณุโลกไปแล้ว คงต้องเร่งระบายน้ำจากเขื่อนแควน้อยออกมาอีกครั้ง
ทั้งนี้ เมืองพิษณุโลกได้เฝ้าระวังวิกฤติแม่น้ำน่านล้นตลิ่งมาตลอดเดือนสิงหาคม 2554 เทศบาล ชลประทาน จังหวัด กองทัพและองค์กรปกครองส่วนท้องถิ่นได้ทำแนวป้องกัน สูบน้ำออก และบริหารจัดการน้ำไม่ให้ท่วมเขตเศรษฐกิจจังหวัดพิษณุโลก ตลอดช่วงพายุไหหม่าและนกเต็น แม่น้ำน่านทำสถิติสูงสุดอยู่ที่ 10.39 เมตร ในเขตเทศบาลไม่ได้รับผลกระทบ