ช่วงเช้าวันที่ 5 ก.ย. เจ้าหน้าที่พยาบาลและลูกศิษย์ที่ดูแลหลวงพ่อคูณ
ต่างช่วยกันทำความสะอาดห้องพักและเช็ดทำความสะอาดเตียงที่หลวงพ่อคูณนอนพักรักษาตัวที่โรงพยาบาลมหาราชนครราชสีมา ด้วยน้ำยาฆ่าเชื้อโรคเพื่อเป็นการป้องกันไม่มีมีเชื้อรา หรือ เชื้อแบคทีเรียเกิดขึ้นจากการสะสมของเหงื่อของหลวงพ่อคูณ หลังจากที่ต้องนอนพักรักษาตัวที่โรงพยาบาลมหาราชนครราชสีมา ด้วยโรควัณโรคปอดที่ต้องนักรักษาตัวนานกว่า 4 เดือน
ขณะที่ลูกศิษย์ต่างช่วยกันบีบนวดบริเวณต้นคอ แขนและขา ให้กับหลวงพ่อคูณ เพื่อเป็นการคลายเส้นอีกทั้งเพื่อเป็นการสร้างวกล้ามเนื้อของหลวงพ่อคูณกลับมามีเรี่ยวแรง พร้อมทั้งได้พูดคุยกับหลวงพ่อคูณเพื่อเป็นลดความเครียดให้กับหลวงพ่อคูณอีกทางหนึ่ง
ด้านนายแพทย์พินิศจัย นาคพันธุ์ แพทย์ประจำตัวหลวงพ่อคูณ เปิดเผยว่า สำหรับอาการอาพาธหลวงพ่อคูณ ดีขึ้นอย่างต่อเนื่อง
ระดับการเต้นของหัวใจ การหายใจ และความดันโลหิตในร่างกายปกติ สำหรับเรื่องภาวะซึมเศร้าและอาการไม่พูดจาของหลวงพ่อคูณในช่วง 2 วันที่ผ่านมานั้น วันนี้หลวงพ่อคูณมีอาการที่ดีขึ้น มีสีหน้าที่สดใสและพูดจาทักทายสอบถามได้มากขึ้น หลังจากที่คณะแพทย์ได้กำชับให้ลูกศิษย์มีการชวนหลวงพ่อคูณพูดคุยเมื่อหลวงพ่อคูณตื่นจากการจำวัด และให้มีการบีบนวดให้กับหลวงพ่อคูณเพื่อคลายเครียด หลังจากที่หลวงพ่อคูณต้องนอนพักรักษาตัวอยู่ที่โรงพยาบาลเป็นระยะเวลานาน
สำหรับกรณีที่จะมีการหารือในเวลา 14.00 น.
ถึงเรื่องการจะนำตัวหลวงพ่อคูณเดินทางไปเจาะหน้าท้องที่โรงพยาบาลศิริราช กรุงเทพฯ หรือให้คณะแพทย์จากโรงพยาบาลศิริราชฯ เดินทางมาเจ้าที่โรงพยาบาลมหาราชนครราชสีมา ส่วนตัวแล้วคิดว่า ณ ปัจจุบันสภาพร่างกายและจิตใจของหลวงพ่อคูณมีสภาพความพร้อมที่จะรับการเจาะหน้าท้องให้ใส่สายยางและให้ยาและอาหารเหลวนั้น มีความพร้อม 100 เปอร์เซ็นต์ ดังนั้นตนคิดว่าในการหารือวันนี้ควรที่จะหาข้อสรุปให้แล้วเสร็จภายในวันนี้เพื่อประโยชน์ที่หลวงพ่อคูณจะได้รับ แต่อย่างไรก็ตามเมื่อมีข้อสรุปในวันนี้แล้วคณะแพทย์จะต้องทำการประมาณสภาพร่างกายหลวงพ่อคูณอีกครั้งหนึ่ง เนื่องจากสภาพร่างกายของหลวงพ่อคูณจะต้องทำการประเมินแบบวันต่อวัน