พรุ่งนี้ ( 3 ก.ย.) ราคาหมูลด 12 บาท กทม.ภาคกลาง เหลือ 140 บาท ขู่พ่อค้าขายเกินถูกจับต่อ แต่ยังไม่เลิกห้ามส่งออก ส่วนวันที่ 5 ก.ย.เล็งเรียกสินค้า 200 รายถกราคา
วันนี้ ( 2 ก.ย.) นางวัชรี วิมุกตายน อธิบดีกรมการค้าภายใน กระทรวงพาณิชย์ เปิดเผยว่า ได้ประกาศออกประกาศปรับลดราคาแนะนำสุกรทั่วประเทศใหม่ เพื่อให้สอดคล้องกับปริมาณเนื้อหมูที่ออกสู่ตลาดเพิ่มขึ้น โดยราคาหมูเนื้อแดงไหล่และสะโพกจะลดราคาเฉลี่ย กก.ละ 12 บาท ในเขตกรุงเทพ ภาคกลาง ตะวันออก ตะวันตก ลดจากราคาควบคุมกก.ละ 152 บาท เหลือ 140 บาท ภาคเหนือและตะวันออกเฉียงเหนือลดจาก 157 บาท เหลือ 145 บาท และภาคใต้ลดจาก 162 บาท เหลือ 150 บาท โดยมีผลตั้งแต่วันที่ 3 ก.ย.นี้เป็นต้นไป
นอกจากนี้ยังประกาศราคาแนะนำหมูทั้งระบบ ตั้งแต่สุกรมีชีวิตหน้าฟาร์มในเขตกรุงเทพ ภาคกลาง ตะวันออก ตะวันตก
ลดจากราคาควบคุม กก.ละ 81 บาท เหลือ 74-75 บาท ภาคเหนือ ภาคตะวันออกเฉียงเหนือลดเหลือ 78-79 บาท และภาคใต้เหลือ 80-81 บาท ราคาขายส่งสุกรชำแหละ (หมูซีก) ในเขตกรุงเทพ ภาคกลาง ตะวันออก ตะวันตก ลดจากราคาควบคุม กก.ละ 93 บาท เหลือ 86-87 บาท ภาคเหนือ ภาคตะวันออกเฉียงเหนือลดเหลือ 90-91 บาท และภาคใต้เหลือ 92-93 บาท ส่วนราคาขายส่งชิ้นส่วนหมูเนื้อแดงไหล่ สะโพก ในเขตกรุงเทพ ภาคกลาง ตะวันออก ตะวันตก ลดจากราคาควบคุม กก.ละ 137 บาท เหลือ 125 บาท ภาคเหนือ ภาคตะวันออกเฉียงเหนือลดเหลือ 130 บาท และภาคใต้เหลือ 135 บาท
“การปรับลดราคาครั้งนี้ เพื่อเป็นการสะท้อนกับต้นทุนและภาวะเนื้อหมูในประเทศ ที่ขณะนี้มีหมูออกมาเพิ่มขึ้นทำให้ปริมาณผลผลิตคลายความตรึงตัวและราคาปรับลดต่อเนื่อง และหลังจากนี้จะติดตามและทบทวนต้นทุนหมูเป็นประจำทุกเดือน หากพบว่าต้นทุนลด และสถานการณ์ดีขึ้น ราคาขายปลีกจะต้องลดตามเพื่อดูแลค่าครองชีพให้มีความเป็นธรรม หลังจากก่อนนี้กรมได้ประกาศลดราคาเนื้อไก่ไปแล้ว กก.ละ 5-15 บาท และระหว่างนี้ยังให้เจ้าหน้าที่ออกตรวจสอบสถานการณ์ราคาและพฤติกรรมแผงหมูตามตลาดสด หากพบการขายเกินราคาก็จะดำเนินการตามกฎหมาย”
อย่างไรก็ตามกรมยังไม่ได้พิจารณายกเลิกมาตรการห้ามการส่งออกเนื้อหมู ตามที่สมาคมผู้เลี้ยงสุกรแห่งชาติร้องมา
เพราะแม้ราคาเนื้อหมูลดลงและปริมาณออกสู่ท้องตลาดมากขึ้น แต่ก็ยังอยู่ในภาวะไม่ปกติ โดยกรมจะติดตามรอจนปริมาณหมูและราคาอ่อนตัวถึงระดับเหมาะสม คือ มีต้นทุนการเลี้ยงกก.ละ 58 บาท ราคาหมูมีชีวิตหน้าฟาร์มไม่เกิน 65 บาท และหมูชำแหละราคาไม่เกิน 120 บาทก่อน นอกจากนี้กรมจะได้ติดตามสถานการณ์ราคาไข่ไก่ด้วยว่า มีราคาขายและต้นทุนสอดคล้องกันหรือไม่ หลังราคาสินค้าโปรตีนเนิ้อสัตว์ส่วนใหญ่ ทั้งหมู ไก่ มีราคาลดลงแล้ว
นางวัชรีกล่าวต่อว่า การประชุมกับผู้ผลิตสินค้าเพื่อขอความร่วมมือในการดูแลค่าครองชีพแก่ประชาชนในวันที่ 5 ก.ย.นี้
นายภูมิ สาระผลรมช.พาณิชย์ จะเป็นประธานประชุมร่วมกับผู้ประกอบการสินค้ากว่า 200 ราย จาก 10 กลุ่มอุตสาหกรรม อาทิ อาหาร สินค้าเกษตร อาหารสัตว์ เครื่องใช้ไฟฟ้า อุปโภคบริโภค วัสดุก่อสร้าง เป็นต้น เพื่อหารือถึงสถานการณ์ราคาสินค้า ผลกระทบจากการปรับลดราคาน้ำมัน รวมถึงรับฟังปัญหาและภาระการผลิตของภาคเอกชน ตลอดจนแนวทางความร่วมมือในลดค่าครองชีพประชาชน การประชุมครั้งนี้คาดว่าจะมีสินค้าหลายรายการที่รับประโยชน์จากการปรับลดราคาน้ำมันดีเซล โดยเฉพาะปูนซิเมนต์ ปุ๋ยเคมี ที่ขณะนี้ตอบรับแล้วว่าพร้อมจะให้ความร่วมมือในการลดราคาสินค้าลง ขณะที่สินค้าอุปโภคบริโภคได้แจ้งแล้วว่า จะร่วมตรึงราคาขายจนถึงสิ้นปีนี้