นายกฯหญิงออสซี่ ยืนยันไม่ลาออก หลังมรสุมการเมืองกระหน่ำ เชื่อตนเองเหมาะสมที่สุด
นายกรัฐมนตรีจูเลีย กิลลาร์ด ของออสเตรเลีย ปัดกระแสข่าวที่ว่า ส.ส.ของพรรคบางคนเริ่มหมดศรัทธาในตัวเธอ และจะยังคงทำหน้าที่ผู้นำรัฐบาลต่อไป หลังจากนโยบายเกิดการสะดุดครั้งใหม่ เมื่อศาลฎีกาประกาศให้ข้อตกลงแลกเปลี่ยนผู้ลี้ภัยกับมาเลเซียเป็นโมฆะ
โดยเมื่อวันพุธที่ผ่านมา ศาลสูงแห่งออสเตรเลียระงับนโยบายการส่งผู้ลักลอบอพยพทางเรือกลับมาเลเซียกว่า 800 คน ซึ่งสร้างความอับอายให้แก่นางกิลลาร์ดและรัฐบาลที่มีความเปราะบางของเธออย่างมาก และก่อให้เกิดกระแสที่ว่ารัฐบาลของเธออาจกำลังนับวันรอ
หนังสือพิมพ์ซิดนีย์ มอร์นิง เฮรัลด์ รายงานว่า พรรคแรงงานกำลังตกอยู่ท่ามกลางเสียงลือที่ว่าอาจมีความเป็นไปได้ในการเปลี่ยนตัวผู้นำที่เป็นสตรีคนแรกของประเทศ ซึ่งความน่าเชื่อถือของเธอกำลังถดถอยลง หลังการถูกปฏิเสธจากศาล
ด้านนายเควิน รัดด์ ผู้นำพรรคคนก่อนซึ่งถูกกิลลาร์ดเขี่ยลงจากตำแหน่ง กลายเป็นตัวเต็งในตำแหน่งดังกล่าว ขณะที่นายสตีเฟน สมิธ รัฐมนตรีกลาโหม ได้รับการคาดหมายว่าจะเป็นตัวเก็งสำคัญเช่นกัน
ทั้งนี้ กิลลาร์ดได้ให้สัมภาษณ์กับสถานีวิทยุเอบีซีในวันนี้ (2 ก.ย.)ว่า เธอจะไม่ยอมไปไหน เธอเชื่อว่าเธอคือบุคคลที่เหมาะสมที่สุดในการดำรงตำแหน่งนี้ และเตรียมที่จะขับเคลื่อนนโยบายต่างๆเพื่อนำประเทศไปสู่อนาคตที่สดใสกว่า ก่อนหน้านี้ กิลลาร์ดให้สัมภาษณ์สถานีโทรทัศน์สกายทีวีหลังจากขึ้นดำรงตำแหน่งได้เกือบปีโดยยืนยันว่าจะไม่ลาออก
สื่อออสเตรเลียรายงานว่า กิลลาร์ดเผชิญกระแสไม่พอใจมากขึ้นจนคะแนนนิยมต่ำกว่าเมื่อครั้งขึ้นดำรงตำแหน่งแทนนายเควิน รัดด์ ขณะที่นักลงทุนคาดว่าจะมีการเปลี่ยนแปลงรัฐบาลในเร็ว ๆ นี้ และเกิดความไม่แน่ใจเกี่ยวกับมาตรการจัดเก็บภาษีการปล่อยก๊าซคาร์บอนไดออกไซด์และภาษีกำไรการทำเหมืองแร่เหล็กและถ่านหิน ผลการสำรวจพบว่า หากมีการเลือกตั้งในขณะนี้ กิลลาร์ดและพรรคแรงงานของเธอจะพ่ายการเลือกตั้งอย่างแน่นอน
อย่างไรก็ดี กำหนดการเลือกตั้งทั่วไปครั้งหน้าจะมีขึ้นในอีก 2 ปีข้างหน้า รัฐบาลเสียงข้างน้อยของกิลลาร์ด อาศัย ส.ส.อิสระ 3 เสียง และ ส.ส.พรรคกรีน 1 เสียงทำให้มีเสียงข้างมากในสภาเกินมา 1 เสียง แต่หากเธอถูกเปลี่ยนตัวเสียงสนับสนุนนี้ก็อาจหายไป