เบิกอาก้า100กระบอกสู้รุกป่า

กรมอุทยานฯ ประกาศสงครามพวกรุกป่า เบิกอาก้า 100 กระบอกสู้ ชี้ "พระราชินี"ทรงห่วงไม้พะยูงจะหมดป่า เตรียมงัดกฎหมายฟอกเงินยึดทรัพย์นายทุน 

เมื่อวันที่ 21 ส.ค. ที่อุทยานแห่งชาติภูจอง-นายอย  อ.นาจะหลวย จ.อุบลราชธานี  นายสุนันต์ อรุณนพรัตน์ อธิบดีกรมอุทยานแห่งชาติ สัตว์ป่า และพันธุ์พืช กระทรวงทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม (ทส.) เป็นประธานเปิดยุทธการ “ประกาศเป็นศัตรูกับขบวนการตัดไม้พะยูง” โดยมีนายสุรพล สานพันธ์ ผวจ.อุบลราชนี พ.อ.สมชาย เพ็งกรูด ผบ.ฉก.ที่ 1 กองกำลังสุรนารี ในฐานะผู้แทน พล.ท.ธวัชชัย สมุทรสาคร แม่ทัพภาค 2  ตลอดจนข้าราชการฝ่ายปกครอง ตำรวจตระเวนชายแดน อาสาสมัครรักษาดินแดน อาสาสมัครทหารพรานกว่า 600 นาย เข้าร่วมพิธี

ทั้งนี้ผู้สื่อข่าวรายงานว่า ก่อนเปิดยุทธการฯ นายสุนันต์ พร้อมผู้ว่าฯ และ พ.อ. สมชาย ได้หารือถึงสถานการณ์การลักลอบตัดไม้พะยูง โดยนายสุนันต์ กล่าวว่า เมื่อวันที่ 20 ส.ค.ที่ผ่านมาได้แจ้งกับนายวงศักดิ์ สวัสดิพาณิชย์ อธิบดีกรมการปกครอง เกี่ยวกับสถานการณ์การลักลอบตัดไม้พะยูงและได้ขอยืมปืนอาก้า 100 กระบอก และกระสุน 100,000 นัด จากกรมการปกครอง เพื่อใช้ลาดตระเวน ซึ่งนายวงศ์ศักดิ์ได้ให้กรมอุทยานฯ ทำหนังสือขออย่างเป็นทางการมา นอกจากนี้ ได้หารือกับ พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา ผบ.ทบ. ที่ได้เข้าเฝ้าฯ สมเด็จพระนางเจ้าสิริกิติ์ พระบรมราชินีนาถ โดยทรงรับสั่งเป็นห่วงปัญหาการลักลอบตัดไม้พะยูง ทั้งนี้กรมอุทยานฯ จะสนองพระราชเสาวนีย์ของพระองค์อย่างเต็มที่ เพราะสถานการณ์ขณะนี้หากไม้พะยูงหมดจากป่า จะนำมาสู่สถานการณ์การถือครองที่ดิน เช่นเดียวกับที่เกิดขึ้นที่อุทยานแห่งชาติทับลาน จ.นครราชสีมา 

นายสุนันต์ระบุตอนหนึ่งในการกล่าวเปิดยุทธการฯ ว่า การตัดไม้พะยูงมีความรุนแรงมากขึ้นเป็นลำดับ มีการเชื่อมโยงเป็นขบวนการจนน่าวิตกว่าพะยูงจะหมดจากป่าของประเทศไทยและของโลก ไม้พะยูงในประเทศไทยถือว่ามีคุณภาพดีและมีความสวยงามที่สุดในโลก โดยเฉพาะบนเทือกเขาพนมดงรัก คนไทยถือว่าไม้พะยูงเป็นไม้มงคล ศักดิ์สิทธิ์เป็นของสูง ไม่นิยมนำมาก่อสร้าง แต่คนต่างชาติไม่ได้คิดแบบนั้น โดยนิยมนำไปสร้างอาคารสถานที่ ตกแต่งเพื่อเสริมบารมีสำหรับผู้ที่มีไว้ครอบครอง ดังนั้นธุรกิจค้าไม้พะยูงจึงมุ่งมาสู่ประเทศไทย โดยใช้วิธีการทุกรูปแบบทั้งจำนวนเงิน บางครั้งใช้ยาเสพติดมาแลกกับพะยูง 

“อย่างไรก็ตามภัยคุกคามไม้พะยูงจากต่างประเทศ  ถือว่าไม่น่ารุนแรงเท่ากับภัยจากภายในประเทศ จากฝีมือคนไทยด้วยกันเอง ยุทธการฯครั้งนี้เป็นยุทธการที่เอาจริงเอาจัง และได้รับความร่วมมือจากทุกฝ่าย เพื่อที่จะหยุดยั้งขบวนการตัดไม้พะยูงให้ได้ ทั้งนี้เจ้าหน้าที่กว่า 600 นายที่ร่วมในปฏิบัติการครั้งนี้ จะมีอาวุธปืนกระสุน ป้องกันตนเอง หากมีการปะทะกัน ก็ขอให้เราเป็นผู้ได้เปรียบ กรมอุทยานฯ จะทำทุกวิถีทางเพื่อรักษาศักดิ์ศรีเกียรติยศขององค์กรในการปกป้องรักษาป่าไว้ ดังนั้นขออย่าให้อำนาจอื่นมาเปลี่ยนเราได้ นอกจากนี้จะเสนอให้นำกฎหมายสำนักงานป้องกันและปราบปรามการฟอกเงิน (ป.ป.ง.)  มาใช้ เพื่อสาวให้ถึงผู้บงการและอายัดทรัพย์สินเป็นของแผ่นดินได้ โดยจะให้ จ.อุบลราชธานีเป็นพื้นที่นำร่อง” อธิบดีกรมอุทยานแห่งชาติ สัตว์ป่า และพันธุ์พืช กล่าวขึงขัง

ขณะที่ นายอรรถพล เจริญชันษา ผอ.ส่วนยุทธการด้านการป้องกันและปราบปราม กรมอุทยานฯ ได้นำเจ้าหน้าที่ทั้ง 600 นาย กล่าวคำปฏิญาณ ว่าจะเป็นศัตรูกับขบวนการตัดไม้พะยูงทุกรูปแบบ หากผู้หนึ่งผู้ใดมีส่วนเกี่ยวข้องให้การสนับสนุน ขบวนการตัดไม้พะยูง และทำลายทรัพยากรป่าไม้ ขอให้ได้รับความหายนะ และมีอันเป็นไป.