พล.อ.ยุทธศักดิ์ ศศิประภา รมว.กลาโหม พร้อมด้วย พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา ผบ.ทบ.
เดินทางไปจังหวัดชายแดนภาคใต้ สงขลาและปัตตานี โดยจะเดินทางไปยังค่ายสิรินธร อ.ยะรัง จ.ปัตตานี เพื่อประชุม ผบ.หน่วยถึงระดับ ฉก. และฟังบรรยายสรุปจาก พลโทอุดมชัย ธรรมสาโรรัชต์ แม่ทัพภาคที่ 4 และ ผอ.กอ.รมน.ภาคที่ 4
โดยพล.อ.ประยุทธ์ ให้สัมภาษณ์กรณีภาพเจ้าหน้าที่ เดินหน้าปฏิบัติการเผาบ้าน-เผายุ้งฉางเพื่อขับไล่ชาวกะเหรี่ยงดั้งเดิม
ออกจากพื้นที่ป่าแก่งกระจานที่บุกรุกทำลายป่าเพราะทำไร่หมุนเวียนก่อนเกิดเหตุโศกนาฏกรรม ฮ.ทหาร ตก 3 ลำซ้อนในเขตแก่งกระจานติดชายแดนพม่าว่า คงต้องตามดูว่าเป็นภาพที่เกิดขึ้นเมื่อไร แต่ตนคิดว่าเป็นเรื่องของการปฏิบัติงานของกรมอุทยานแห่งชาติ แล้วก็ทางกรมอุทยานแห่งชาติ เป็นการขอความร่วมมือจากทางกองทัพไป เพราะฉะนั้นหากทางกรมอุทยานจะทำอะไรก็แล้วแต่ จะต้องเป็นกรอบการทำงานของทางกรมอุทยานเอง ทางกองทัพไปเป็นผู้สนับสนุน เพราะฉะนั้นก็ขอให้เข้าใจด้วยว่าเป็นการสนับสนุน ตนคิดว่าไม่มีใครอยากจะทำร้าย ไม่มีใครอยากจะไม่สงสารคน ท่านก็เลือกเอาว่าจะทำอย่างไร แต่ไม่เกี่ยวกับเรื่องอุบัติเหตุที่เกิดขึ้น มันคนละเรื่องกัน
ส่วนนโยบายตั้ง 3 จังหวัดชายแดนภาคใต้ เป็นเขตปกครองท้องถิ่นพิเศษ ตามนโยบายของรัฐบาล ผบ.ทบ. ระบุว่า
การทำงานทุกอย่างขึ้นอยู่กับรัฐบาล ที่เป็นฝ่ายบริหาร ทหารไม่มีความขัดแย้ง ซึ่งในการทำงานไม่ควรนำความขัดแย้งมาเป็นจุดเริ่มต้น โดยการลงพื้นที่ชายแดนภาคใต้ เพื่อรับทราบแนวทางการทำงาน โดยพล.อ.ประยุทธ์ ยืนยันว่าการดำเนินการแก้ปัญหาการก่อความไม่สงบภาคใต้ เป็นไปตามพระราชเสาวนีย์ของสมเด็จพระนางเจ้าฯพระบรมราชินีนาถ ซึ่งที่ผ่านมาก็ปฏิบัติมาโดยตลอด ทั้งนี้พร้อมน้อมรับทุกเสียงวิพากษ์วิจารณ์ และเปิดทุกมุมมอง ในการแก้ปัญหา โดยงานต่างๆ ก็ขึ้นอยู่กับนายกรัฐมนตรี ปัญหาทั้งหมดแก้โดยทุกรัฐบาล ซึ่งวิธีหลักๆ ไม่ต่างกัน อย่างไรก็ตาม ประชาชนมีความสุขมากขึ้น กับการพัฒนาจังหวัดชายแดนภาคใต้ แต่ด้านความปลอดภัยในชีวิตและทรัพย์สิน ก็ยังคงมีเหตุรุนแรงอยู่ เพราะฝ่ายตรงข้ามพยายามยกระดับปัญหาให้เข้าสู่ระดับสากล ทำให้เจ้าหน้าที่ต้องทำงานอย่างเต็มที่ และประชาชนก็ต้องระวังมากขึ้น