โผล่อีกแก๊งค้าสุนัขข้ามชาติ พบสุนัขรอถูกส่งขายที่ศรีสะเกษ
ส่งเสียงเห่าหอนรอความช่วยเหลืออีก 50 ตัว ปศุสัตว์นครพนมเรียกร้องให้เจ้าของแจ้งความเอาผิดกับขบวนการค้าสุนัข ในข้อหาลักทรัพย์-รับซื้อของโจร สลดมีเจ้าตูบเคราะห์ร้ายทยอยตายไปแล้ว 300 ตัว เหลืออีก 1,000 ตัว ต้องอยู่ในความดูแลจนกว่าคดีถึงที่สุด ขณะที่คนใจบุญแห่บริจาคช่วยเหลือค่าอาหารสุนัขอย่างต่อเนื่อง
จากกรณีเจ้าหน้าที่ด่านกักกันสัตว์ จ.นครพนม
ได้ตรวจยึดสุนัขที่เตรียมลักลอบนำส่งไปขายยังประเทศเวียดนาม ถูกเคลื่อนย้ายนำมาเก็บไว้ที่ด่านกักกันสัตว์ จ.นครพนม และศาลจะพิจารณาคดีในวันที่ 26 ก.ย.ที่จะถึงนี้ โดยทางนายเริงศักดิ์ มหาวินิจฉัยมนตรี ผวจ.นครพนม เปิดบัญชีกองทุนช่วยเหลือสุนัข เพื่อแก้ปัญหาขาดแคลนอาหารและพบว่ามียอดบริจาคช่วยเหลือสุนัขร่วม 2 ล้านบาท ตามข่าวที่เสนอไปแล้วนั้น
ความคืบหน้า เมื่อวันที่ 16 ส.ค. นายไพรัช ประทุมสุวรรณ ปศุสัตว์จังหวัดนครพนม กล่าวว่า
นอกจากมีประชาชนจำนวนมากเดินทางมาร่วมบริจาคอาหารช่วยเหลือสุนัขแล้วยังได้เดินทางมาติดตามหาสุนัขที่สูญหายไปด้วย โดยส่วนใหญ่ระบุว่า แก๊งค้าสุนัขจะใช้วิธีตระเวนขโมยสุนัขตามชุมชนหรือหมู่บ้านในช่วงกลางคืนแล้วนำมาส่งขายต่อให้กับพ่อค้าสุนัข เพื่อรวบรวมนำส่งไปขายยังประเทศเวียดนาม จึงประกาศเชิญชวนประชาชนเจ้าของสุนัข เดินทางมาตรวจสอบหากพบสุนัขที่ถูกขโมยมาให้แจ้งความต่อพนักงานสอบสวน เพื่อหาทางเอาผิดเพิ่มกับขบวนการค้าสุนัข ในข้อหาลักทรัพย์ และรับซื้อของโจร
ค้าหมาโผล่ซ้ำ ขังคอก 50 ตัวขายศรีสะเกษเห่าลั่นรอช่วย
นอกจากนี้การเฝ้าดูแลสุนัข ได้ระดมเจ้าหน้าที่จากหน่วยงานปศุสัตว์ทั้งในพื้นที่ และส่วนกลางให้ลงมาช่วยดูแลสุขภาพสุนัขที่ได้รับบาดเจ็บ
เพื่อรักษาสุนัขให้มีชีวิตรอดมากที่สุด เนื่องจากสุนัขส่วนใหญ่บอบช้ำร่างกายเนื่องจากได้รับบาดเจ็บจากการขนย้าย ทำให้ทยอยตายไปเป็นจำนวนมาก ล่าสุดเหลือเพียง 1,000 ตัวตายโดยไปแล้วประมาณ 300 ตัวและเจ้าหน้าที่ต้องรักษาดูแลไปจนกว่าคดีจะสิ้นสุด เนื่องจากสุนัขเป็นของกลางที่อยู่ระหว่างการดำเนินคดี ส่วนเจ้าของสุนัขที่ติดตามมาดูพบว่าเป็นเจ้าของ ยังไม่สามารถนำกลับได้ เพราะต้องรอให้คดีสิ้นสุดก่อน จึงให้ลงบันทึกไว้เป็นหลักฐาน วันเดียวกัน ที่บริเวณด่านกักกันสัตว์ จ.นครพนม มีประชาชนจาก จ.ขอนแก่น ร้อยเอ็ด อำนาจเจริญ กาฬสินธุ์ สกลนครและบึงกาฬ พากันมาตามหาสุนัขในคอกกักกันสัตว์ ขณะเดียวกันคุณหญิงพันธุ์เครือ ยงใจยุทธ ได้มอบเงินให้กับนายชูศักดิ์ พงษ์พานิช หัวหน้าด่านกักกันสัตว์นครพนม 15,000 บาท และนางพยุง ประคองทับทิมเทศ ชาวกรุงเทพมหานคร มอบเงิน 100,000 บาท เพื่อช่วยเหลือซื้ออาหารให้สุนัข โดยมีสัตวแพทย์จากสำนักควบคุมป้องกันบำบัดโรคสัตว์ กรมปศุสัตว์ และสำนักงานสุขศาสตร์และสุขอนามัยที่ 4 กว่า 10 คน มาคอยให้ความช่วยเหลือรักษาพยาบาลสุนัขที่เจ็บป่วยด้วย
วันเดียวกัน เวลา 09.00 น. ผู้สื่อข่าวรับแจ้งจากชาวบ้านใน อ.ขุขันธ์ จ.ศรีสะเกษ ว่า
มีหมู่บ้านในเขต อ.ขุขันธ์ ยึดอาชีพรับซื้อขายสุนัขส่งขายต่างประเทศ จึงเดินทางไปตรวจสอบ ที่บริเวณกลางทุ่งนาห่างจากหมู่บ้านสนามสามัคคีประมาณ 400 เมตร หมู่ 6 ต.โสน อ.ขุขันธ์ พบกรงสุนัขขนาดความกว้าง 3 เมตร ยาว 6 เมตร มีตาข่ายเหล็ก 2 ชั้นทำเป็นกรง หลังคามุงด้วยสังกะสี ภายในมีสุนัขถูกขังอยู่ประมาณ 50 ตัว ส่งเสียงหอนโหยหวนเหมือนขอความช่วยเหลืออย่างน่าเวทนา
จากการสอบถามชาวบ้านในหมู่บ้านทราบว่า
ตามปกติแล้วชาวบ้านในหมู่บ้านส่วนใหญ่ จะตื่นเช้านำรถเข็นที่ดัดแปลงเป็นกรงตระเวนรับซื้อสุนัขตามหมู่บ้านต่าง ๆ เป็นประจำตลอดทั้งปี ในราคา 300-500 บาทต่อตัว แล้วนำสุนัขมาจำหน่ายให้กับเอเย่นต์รายใหญ่ในหมู่บ้าน เพื่อนำสุนัขมาพักไว้รอส่งขายให้พ่อค้ารายใหญ่อีกทอดหนึ่ง ที่ จ.นครพนม และ จ.สกลนคร และยึดอาชีพนี้มาเป็นเวลาหลายปีแล้ว เพราะสร้างรายได้ให้ต่อครอบครัวถึงเดือนละ 25,000-30,000 บาท จนกระทั่งมีเงินสร้างบ้านหลังใหญ่ และซื้อรถราคาแพงได้อย่างสบายเลยทีเดียว
นอกจากนี้ยังพบด้วยว่าหมู่บ้าน มีนายหน้ารับซื้อสุนัขอยู่ถึง 3 รายด้วยกัน
แต่ยังไม่มีเจ้าหน้าที่เข้าดำเนินการใด ๆ โดยเฉพาะอย่างยิ่งเส้นทางลำเลียง ที่ปล่อยให้มีการขนย้ายสุนัขจำนวนมากผ่านไปในพื้นที่ จ.ศรีสะเกษ เพื่อนำไปส่งให้เอเย่นต์รายใหญ่ในต่างจังหวัด โดยไม่เคยถูกจับกุมได้แต่อย่างได ส่วนสุนัขที่รอการส่งต่อไปยังต่างประเทศนั้น ยังถูกจำหน่ายให้กับวัยรุ่น หรือลูกค้าทั่วไป เพื่อนำไปชำแหละเป็นอาหารอีกด้วย.