เมื่อวันที่ 13 สิงหาคม ผู้สื่อข่าวได้รับแจ้งจากชาวบ้านที่ไปร่วมงานเผาศพที่วัดท่าตอ หมู่ 3 ต.มหาราช จ.พระนครศรีอยุธยา
ว่าเมรุสำหรับใช้เผาศพถูกทาด้วยโทนสีชมพูทั้งหลัง สร้างความแปลกใจให้กับผู้ที่ไปร่วมงานอย่างมาก จึงเดินทางไปตรวจสอบ พบเมรุเป็นสีชมพูจริง โดยอยู่ใกล้กับถนนสายมหาราช-ท่าตอสาย ซึ่งภายในเมรุสีชมพูทั้งหลัง ประดับประดาด้วยลวดลายกนกสีทองสวยงาม มีขนาดความยาว 20 เมตร กว้าง 8 เมตร บันไดขึ้นลง 3 ด้าน
พระใบฎีกาชัชวาลย์ ธมฺมทีโป อายุ 38 ปี เจ้าอาวาสวัดท่าตอ เปิดเผยว่า
การปรับปรุงทาสีเมรุเผาศพเป็นสีชมพู มีข้อคิดเตือนสติ 3 อย่าง คือ 1.ช่วยลดความโศกเศร้าให้กับญาติโยมที่ไปร่วมงาน 2.จุดที่ตั้งของเมรุเผาศพอยู่ติดกับถนน เวลากลางคืนจะมีหนุ่มสาวออกไปทำงานต้องเดินสัญจรผ่านเมรุทำให้เกิดความกลัว จึงต้องการจะลดความน่ากลัวลงไป 3.เป็นความสุขครั้งสุดท้ายของผู้ที่เสียชีวิตคือความตาย เมื่อตายแล้วจะต้องมีความสุขไม่ดิ้นรนแต่สดชื่น
พระชัชวาลย์กล่าวต่อว่า เดิมเมรุทาด้วยสีขาวตัดขอบด้วยสีดำ คนผ่านไปผ่านมาในช่วงกลางคืนจะเกิดความกลัว
จึงคิดว่าจะทำอย่างไรดีจะช่วยผ่อนคลาย เลยตัดสินใจทางสีชมพู เพราะเมรุคือสิ่งสุดท้ายที่คนเราเมื่อตายแล้วจะต้องไปใช้ ซึ่งการบูรณะทาสีใช้เวลา 1 เดือนเศษ ค่าทาสีประมาณ 3 แสนบาท หลังจากทำสีใหม่มีการใช้เผาศพไปแล้วถึง 8 ศพ ญาติโยมต่างบอกว่า เมื่อมาเห็นเมรุสีชมพูแล้วทำให้คลายความโศกเศร้าไปได้พอสมควร และยังบอกต่ออีกว่าสวยดี
ด้านนายประสงค์ เทียมหลา อายุ 46 ปี ผู้ใหญ่บ้าน หมู่ 1 ต.มหาราช อ.มหาราช เปิดเผยว่า เมรุสีชมพูรู้สึกว่าเป็นของแปลก สวยดี ลดความน่ากลัวในยามค่ำคืน ประกอบกับชาวบ้านบอกว่าไม่ผิด เป็นเรื่องแปลกและดีอีกด้วย เชื่อว่าใน จ.พระนครศรีอยุธยา ที่มีวัดถึง 505 แห่ง ยังไม่มีเมรุเผาศพเป็นสีชมพู