ผวจ.พิษณุโลก ตรวจปริมาณน้ำน่านที่จะรับมือได้อีกเพียง50ซม.ถึงจุดวิกฤติ รับมือ 24 ชม.
เมื่อเวลา 09.30 น. วันที่ 13 ส.ค. นายปรีชา เรืองจันทร์ ผวจ.พิษณุโลก ตรวจสถานการณ์แม่น้ำน่านบริเวณจุดต่างๆ ที่ไหลผ่านเขตเทศบาลนครพิษณุโลก หลังจากค่ำวันที่ 12 ส.ค. น้ำจาก อ.ตรอน จ.อุตรดิตถ์ ไหลสู่แม่น้ำน่านผ่านตัวเมืองพิษณุโลก สาเหตุจากฝนตกใต้เขื่อนสิริกิติ์ และเขื่อนแควน้อย ทำให้แม่น้ำน่านสูงต่อเนื่อง อีกทั้งยังมีน้ำที่สะสมตามจุดต่างๆกว่า 1,300 ล.ลบ.ม. กำลังไหลเข้ามาตัวเมืองพิษณุโลก ในวันที่ 14 ส.ค. เวลา 09.00 น. จะส่งผลให้น้ำน่านเพิ่มขึ้นอีก กว่า 50 ซม.
นายปรีชา กล่าวว่า ระดับน้ำแม่น้ำน่านในวันนี้อยู่ที่ 9.48 เมตร จะรับได้อีก 50 ซม.ก็ถึงจุดวิกฤติ แต่รับมือได้ไม่ให้เข้าท่วมเขตเทศบาลนครพิษณุโลก เนื่องจากเทศบาลนครพิษณุโลกได้จัดเจ้าหน้าที่และเครื่องสูบน้ำไว้กว่า 20 เครื่อง เตรียมพร้อมสถานการณ์ 24 ชม.ขณะนี้เปิดใช้งานแล้ว 4 เครื่อง เนื่องจากน้ำเอ่อท่อระบายน้ำ ระบายไม่ได้ต้องเริ่มสูบน้ำออกมาทางแม่น้ำน่าน อย่างไรก็ตามขอแจ้งเตือนประชาชนในเขตพื้นที่ต่ำ เช่น หมู่ 4 หมู่ 5 ต.ปากทอง ต.จอมทอง อ.เมืองพิษณุโลก และแถบวัดท่าไชย ต.มะตูม อ.พรหมพิราม จ.พิษณุโลก ที่อยู่ริมแม่น้ำน่าน และตลิ่งต่ำให้เตรียมรับมือไว้ด้วย ในส่วนของเทศบาลนครพิษณุโลกได้เร่งอุดท่อระบายน้ำทิ้ง และเตรียมกระสอบทรายรับมือในจุดที่เป็นพื้นที่ต่ำไว้แล้ว หากผ่านพรุ่งนี้เที่ยงวันน้ำแม่น้ำน่าน ไม่เอ่อล้น แสดงว่า จ.พิษณุโลกผ่านพ้นวิกฤติน้ำท่วมได้อีกครั้งหนึ่ง
ด้านนายบรรดิษฐ์ อินต๊ะ ผอ.โครงการชลประทานจังหวัดพิษณุโลก เปิดเผยว่า ช่วงวันที่ 13-14 ส.ค.นี้ แม่น้ำน่านช่วงไหลผ่านอ.เมืองพิษณุโลกจะเพิ่มระดับสูงขึ้นมาก เนื่องจากมีฝนตกหนักในจ.อุตรดิตถ์ 112 มิลลิเมตร และเป็นฝนที่ตกท้ายเขื่อนสิริกิติ์ ขณะนี้ น้ำจากจ.อุตรดิตถ์กำลังไหลเข้าสู่อ.พรหมพิราม และอ.เมือง จ.พิษณุโลก ดังนั้นในสองสามวันนี้ แม่น้ำน่านช่วงไหลผ่านเทศบาลนครพิษณุโลกอาจจะสูง 9.60-9.70 เมตร ปริมาณน้ำไหลผ่าน1,200 ลูกบาศก์เมตรต่อวินาที.