สหภาพฯโวยขสมก.งุบงิบ

ภาพข่าวจาก เดลินิวส์


เอื้อประโยชน์ยกรถเมล์2สายให้เอกชน ขสมก.แจงแค่วิ่งรถแอร์-เพิ่มทางเลือก  

เมื่อวันที่ 9 ส.ค. นายวีระพงศ์ วงแหวน เลขาธิการสหภาพแรงงานรัฐวิสาหกิจ องค์การขนส่งมวลชนกรุงเทพ (ขสมก.) เปิดเผยว่า ตนทราบข่าวจากที่ประชุมคณะอนุกรรมการ ที่มีนายเทียนโชติ จงพีร์เพียร อธิบดีกรมการขนส่งทางบก (ขบ.) เป็นประธาน ซึ่งคณะอนุกรรมการ ของคณะกรรมการบริหารกิจการ (บอร์ด) ขสมก.

เมื่อวันที่ 19 ก.ค.ที่ผ่านมา ได้อนุมัติให้มีการยกรถเมล์ ขสมก. 2 สาย ให้สัมปทานเอกชนไปเดินรถแทน ได้แก่ สาย 105 คลองสาน-มหาชัยเมืองใหม่ มีรถออกบริการ 26 คัน และสาย 203 อตก.-สนามหลวง มีจำนวนรถออกให้บริการ 36 คัน ซึ่ง ขสมก.ให้บริการด้วยรถธรรมดาทั้ง 2 สาย โดยให้เหตุผลว่าผู้โดยสารต้องการใช้บริการรถปรับอากาศจึงเห็นควรให้เอกชน ดำเนินการ โดยจะนำเข้าอนุมัติในที่ประชุมบอร์ด ขสมก. วันที่ 10 ส.ค.

นายวีระพงศ์ กล่าวต่อว่า สหภาพแรงงานฯ ขสมก.ไม่เห็นด้วยอย่างยิ่งกับเรื่องนี้ เพราะเหมือนเป็นการแปรรูปรถเมล์ให้เอกชน และเห็นว่าทำไมผู้บริหารจึงต้องเร่งรีบทำในช่วงนี้ ทั้งที่มีโครงการปรับเส้นทางรถเมล์อยู่แล้ว ที่เร่งรีบอย่างผิดปกติต้องการเอื้อประโยชน์ให้ใครหรือไม่ เพราะไม่ได้มีการหารือพนักงานหรือสหภาพแรงงานฯ ก่อน แล้วเหตุใดต้องเป็น 2 บริษัทนี้ที่ได้รับสัมปทาน

นอกจากนี้จะเห็นว่าที่ผ่านมาการโอนรถเมล์บางสายของ ขสมก.ให้เอกชนดำเนินการแทน กลับทำให้ประชาชนได้รับบริการที่แย่ลง ซึ่งมีตัวอย่างให้เห็นมาแล้ว ดังนั้นหากผู้บริหารยังดำเนินการเช่นนี้เท่ากับซ้ำเติมประชาชน อีกทั้ง ขสมก.ไม่สามารถควบคุมการให้บริการของเอกชนได้จริง เมื่อเกิดอุบัติเหตุ ขสมก.ก็ต้องเป็นจำเลยที่ 2 อยู่ร่ำไป จึงอยากให้ ขสมก.พิจารณาเรื่องดังกล่าวให้ดี

ด้านนายโอภาส เพชรมุณี ผู้อำนวยการ ขสมก. เปิดเผยว่า ขสมก.ไม่ได้ยกรถเมล์ทั้ง 2 สายดังกล่าวให้เอกชนวิ่ง แต่เป็นการให้เอกชนมาวิ่งให้บริการในส่วนของรถปรับอากาศ ที่ขณะนี้ ขสมก.ไม่มีรถปรับอากาศเพียงพอออกให้บริการ

ส่วนทำไมต้องเป็นเอกชน 2 รายนี้ เพราะเขามาเสนอตัวขอวิ่งและไม่มีรายอื่นใดมาเสนอตัว และตนเห็นว่าหากมีรถปรับอากาศมาวิ่งเพิ่มจะช่วยให้มีการบริการประชาชนที่ดี ขึ้นจึงเห็นควรให้ทำได้

โดยเอกชนทั้ง 2 ราย ต้องจ่ายค่าตอบแทนให้ ขสมก.เหมือนผู้ร่วมบริการรายอื่น ขณะที่ขสมก.จะนำรถธรรมดา ออกวิ่งให้บริการใน 2 สายนี้เช่นเดิม  ให้ประชาชนมีทางเลือกมากขึ้น 

เครดิต :
เครดิต : เดลินิวส์ (อ่านความจริง อ่านเดลินิวส์)


ข่าวดารา ข่าวในกระแส บน Facebook อัพเดตไว เร็วทันใจ คลิกที่นี่!!
กระทู้เด็ดน่าแชร์