ศูนย์วิจัยมหาวิทยาลัยกรุงเทพ (กรุงเทพโพลล์) เผยแพร่ผลสำรวจข้อมูลของประชาชนในเขตกรุงเทพมหานคร โดยวิธีการรับมือกับปัญหาเนื้อหมูราคาแพงของคนกรุงเทพฯ พบว่า 60.1% จะลดการบริโภคลง และหันไปบริโภคเนื้อสัตว์อย่างอื่นแทน เช่น ไก่ เนื้อ ปลา และผัก ขณะที่ 33.7% จะยังคงบริโภคเหมือนเดิม ส่วน 6.2% จะหยุดการบริโภค จนกว่าราคาเนื้อหมูจะกลับสู่ภาวะปกติ สำหรับคำถามถึงสาเหตุสำคัญที่ทำให้เนื้อหมูมีราคาแพง คนกรุงเทพฯ 33.5% เห็นว่า เป็นเพราะระบบนายทุน พ่อค้าคนกลางเอาเปรียบ 25.2% เห็นว่าเกิดจากราคาอาหารสัตว์แพงขึ้น 20.4% เห็นว่าเกิดจากสภาพอากาศที่แปรปรวนทำให้หมูเป็นโรค ส่วนราคาเนื้อหมูที่คนกรุงเทพฯเห็นว่าพอที่จะจ่ายได้อยู่ที่กิโลกรัมละ 138 บาท ขณะที่ความเชื่อมั่นต่อรัฐบาลชุดใหม่ในการแก้ปัญหาราคาเนื้อหมูที่เพิ่มสูงขึ้น พบว่าคนกรุงเทพฯ 54.5% เชื่อมั่นค่อนข้างมากถึงเชื่อมั่นมาก ขณะที่ 45.5% ไม่ค่อยเชื่อมั่นถึงไม่เชื่อมั่นเลย ทั้งนี้ สิ่งที่คนกรุงเทพฯอยากฝากถึงรัฐบาลชุดใหม่มากที่สุดในการแก้ปัญหาปากท้องของประชาชนพบว่า อันดับแรกได้แก่
ในหัวข้อ “ความเห็นต่อปัญหาเนื้อหมูราคาแพงและความเชื่อมั่นในการแก้ปัญหาของรัฐบาลชุดใหม่” โดยเก็บข้อมูลเมื่อ วันที่ 8-9 สิงหาคมที่ผ่านมา ผลการสำรวจที่เผยแพร่เมื่อวันที่ 10 สิงหาคม พบว่า คนกรุงเทพฯ 72.5% ได้รับความเดือดร้อนจากการที่เนื้อหมูราคาเพิ่มสูงขึ้น และไม่เดือดร้อน 27.5%
อยากให้ช่วยลดค่าครองชีพ ควบคุมราคาสินค้าอุปโภคบริโภคให้เหมาะสม ไม่ทำให้ประชาชนเดือดร้อน 57.9% รองลงมาคือ อยากให้ช่วยทำตามนโยบายที่ได้หาเสียงไว้อย่างเร่งด่วน โดยเฉพาะอย่างยิ่ง การเพิ่มค่าแรงขั้นต่ำและการเพิ่มเงินเดือน 29.2% และอยากให้รัฐบาลช่วยดูแลเรื่องการกักตุนสินค้า ไม่ให้กลุ่มนายทุนและพ่อค้าคนกลางเอาเปรียบผู้บริโภค 1.9%
โพลล์เผยราคาหมูที่คนกรุงรับได้อยู่ที่ กก.ละ 138 บาท มั่นใจรัฐบาลใหม่เอาอยู่
หน้าแรกTeeNee ที่นี่ข่าววันนี้, ข่าวหน้าหนึ่ง ข่าวอื่นๆ โพลล์เผยราคาหมูที่คนกรุงรับได้อยู่ที่ กก.ละ 138 บาท มั่นใจรัฐบาลใหม่เอาอยู่