ร้านขายหมู"ป้าสาว"หนึ่งเดียวเมืองระนอง สวนกระแสหมูแพงขายก.ก.ละ 130 บาท ยึดผู้บริโภคเป็นหลัก วันนี้(9 ส.ค.) ที่บริเวณเขียงขายหมูร้านป้าสาว ถนนระนองธานี เขตเทศบาลเมืองระนอง ซึ่งเป็นร้านขายหมูของนางเพ็ญศรี ช่วยไทร ที่เป็นเพียงรายเดียวใน จ.ระนอง ที่ขายหมูแบบสวนกระแส กิโลกรัมละ 130 บาท โดยราคาต่ำสุดในเนื้อแต่ละส่วนอยู่ที่ราคา 80-130 บาท ซึ่งจากการขายหมูสวรราคาตลาดนี้ ทำให้ในหนึ่งวันสามารถขายได้วันละประมาณ 4-5 ตัว
นางเพ็ญศรี กล่าวว่า เหตุที่ขายหมูราคา กิโลกรัมละ 130 บาท เนื่องจากไม่ต้องการกำไรมาก แต่ต้องการลูกค้ามากกว่า เนื่องจากเน้นขายในปริมาณมาก
ลูกค้าที่มาซื้อก็มีจำนวนมาก มีทั้งที่ซื้อไปใช้ในโรงเรียน ซื้อไปขายต่อ ซื้อไปบริโภคในครัวเรือน ซึ่งป้าจะขายให้ลูกค้าในราคาเดียวกันหมด เพื่อความเป็นธรรม ส่วนสาเหตุที่ป้าขายหมูจำนวนมากแต่ใช้เวลาไม่นาน เนื่องจากหากใช้เวลานานน้ำหนักหมูจะลด ในส่วนที่พ่อแม่ค้าหรือเขียงหมูอื่น ขึ้นราคาหมูตั้งแต่ราคา 150-160 บาท หรือบางเจ้าต้องหยุดขาย ในส่วนนี้มองว่าเป็นในส่วนของเรื่องค่าใช้จ่ายมากกว่า เนื่องจากแต่ละร้านจะมีลูกจ้างมาก เพื่อช่วยในการหั่นเนื้อหมูบริการลูกค้า ส่วนร้านป้าไม่มีค่าใช้จ่ายในส่วนของลูกจ้าง คนในคนครอบครัวช่วยกัน อีกทั้งของป้าเมื่อแร่เนื้อแล้วจะขายเป็นชิ้น โดยจะไม่บริการลูกค้าในเรื่องการหั่นเนื้อเป็นชิ้นหรือบดหมูให้
นางเพ็ญศรี กล่าวต่อว่า เรื่องที่หมูขึ้นราคาหรือหมูมีราคาแพงนั้น ส่วนตัวมองว่าราคาไม่ขึ้นอยู่กับเขียงหมูหรือหมูที่จากฟาร์ม
แต่มองว่าเนื้อหมูจะถูกหรือจะแพงอยู่ที่ผู้บริโภคมากกว่า เช่น หากว่าผู้บริโภคคิดว่าราคาหมูแพง ทดลองพร้อมใจกันหยุดซื้อหมูซักเดือน รับลองว่าราคาหมูลดราคาทันที เนื่องจากจำหน่ายหมูไม่ได้ หมูจะล้นตลาด แต่หากว่าผู้บริโภคคิดว่าไม่แพงจึงซื้อต่อไป หมูก็ยังขายได้อย่างปัจจุบัน ส่วนที่มีข่าวว่ามีการปิดเขียงหมูในบ้างพื้นที่ ความคิดส่วนตัวคิดไม่ควรเนื่องจากหากในจุดหนึ่งหรือตลาดแห่งปิดเขียงงดจำหน่ายหมู่ แต่ในจุดอื่นหรือตลาดอื่นก็ยังขายอยู่ตามปกติ จะทำให้เสียลูกค้าประจำไปโดยเปล่าประโยชน์.