ไทยออยล์รายงานสถานการณ์ราคาน้ำมัน 4 ส.ค.

หน่วยวิเคราะห์สถานการณ์พลังงาน บมจ.ไทยออยล์ รายงานสถานการณ์ราคาน้ำมัน 4 สิงหาคม 2554 "ราคาน้ำมันดิบร่วง หลังสต๊อกน้ำมันสหรัฐฯเพิ่มและตัวเลขเศรษฐกิจแย่"

-ปัจจัยที่ส่งผลกระทบต่อราคาน้ำมันดิบ

ราคาน้ำมันดิบเวสต์เท็กซัส (WTI) ที่ตลาดนิวยอร์ก ส่งมอบเดือน ก.ย. ปรับลดลง 1.86 เหรียญสหรัฐฯ ต่อบาร์เรล ปิดที่ 91.93 เหรียญฯ ส่วนราคาน้ำมันดิบเบรนท์ ที่ตลาดลอนดอน ส่งมอบเดือน ก.ย. ปรับลดลง 3.23 เหรียญฯ ปิดที่ 113.23 เหรียญฯ 

- ปริมาณน้ำมันดิบคงคลังของสหรัฐ สิ้นสุด ณ วันที่ 29 ก.ค. 54 ที่รายงานโดยหน่วยงานสารสนเทศด้านพลังงานของสหรัฐฯ (EIA) ปรับเพิ่มขึ้น 1.0 ล้านบาร์เรล แม้ว่าสหรัฐฯ นำเข้าน้ำมันดิบน้อยลง และโรงกลั่นปรับเพิ่มกำลังการผลิต 1% มาอยู่ที่ 89.3% ก็ตาม 

- ขณะเดียวกัน ปริมาณน้ำมันเบนซินคงคลังปรับเพิ่มขึ้นมากกว่าที่คาดการณ์ไว้มาก เนื่องจาก ความต้องการใช้น้ำมันเบนซินในช่วงเฉลี่ย 4 สัปดาห์ที่ผ่านมาปรับลดลง 3.6% เมื่อเทียบกับปีก่อน ทั้งที่อยู่ในช่วงฤดูกาลท่องเที่ยวหน้าร้อน

หน่วย: ล้านบาร์เรล)            รอยเตอร์โพล                API                  EIA
น้ำมันดิบคงคลัง               เพิ่มขึ้น 0.9              ลดลง 3.3             เพิ่มขึ้น 1.0 
น้ำมันเบนซินคงคลัง         เพิ่มขึ้น 0.1             เพิ่มขึ้น  2.5          เพิ่มขึ้น 1.7 
น้ำมันดีเซลคงคลัง           เพิ่มขึ้น 1.5              เพิ่มขึ้น 1.4          เพิ่มขึ้น 0.4

- ตลาดมีความกังวลต่ออัตราการเติบโตทางเศรษฐกิจของสหรัฐฯ หลังตัวเลขเศรษฐกิจออกมาไม่ดีนัก โดยดัชนีภาคการบริการในเดือน ก.ค. ปรับลดลงมาอยู่ที่ 52.7 จาก 53.3 ในเดือน มิ.ย. และต่ำกว่าคาดที่ 53.0 ส่วนคำสั่งซื้อของโรงงานในเดือน มิ.ย. หดตัวลง 0.8% จากเดือนก่อนหน้า เนื่องจาก คำสั่งซื้อสินค้าคงทนปรับตัวลดลงมากถึง 1.9%

- นอกจากนี้ การจ้างงานภาคเอกชนของสหรัฐฯ ในเดือนก.ค. มีการจ้างงานเพิ่มขึ้น 114,000 ตำแหน่ง ลดลงจากเดือน มิ.ย. ที่มีการจ้างงานเพิ่มขึ้น 145,000 ตำแหน่ง โดยตลาดจับตาดูตัวเลขการจ้างงานนอกภาคเกษตรในเดือน ก.ค. ที่จะประกาศในวันศุกร์นี้ คาดว่าจะมีการจ้างงานเพิ่มขึ้น 85,000 ตำแหน่ง และคาดว่าอัตราการว่างงานจะยังอยู่ที่ระดับเดิมที่สูงถึง 9.2%

- ค่าเงินดอลลาร์สหรัฐฯ แข็งค่าขึ้นเมื่อเทียบกับเงินฟรังค์สวิส หลังจากที่ธนาคารกลางสวิสปรับลดอัตราดอกเบี้ยลง โดยมีวัตุประสงค์ต้องการให้ค่าเงินฟรังค์สวิสไม่แข็งเกินไป หลังจากที่นักลงทุนโยกย้ายเงินลงทุนมายังเงินฟรังค์สวิสเพิ่มขึ้นมากในช่วงที่ผ่านมา จากความกังวลต่อภาวะเศรษฐกิจโลก รวมทั้งปัญหาหนี้ในสหรัฐฯ และยุโรป

- พายุโซนร้อนเอมิลี่ กำลังเคลื่อนตัวมุ่งหน้าสู่ชายฝั่งตะวันออกเฉียงใต้ของสหรัฐฯ และมีกำลังอ่อนลง โดยคาดว่าจะไม่ส่งผลกระทบต่อการผลิตน้ำมันดิบของสหรัฐฯ ในอ่าวเม็กซิโก

ราคาน้ำมันดิบดูไบ ที่ตลาดสิงคโปร์ : ส่งมอบเดือน ก.ย. ปรับลดลง 0.32 เหรียญสหรัฐฯ ต่อบาร์เรล มาอยู่ที่ 109.42 เหรียญสหรัฐฯ ต่อบาร์เรล

-ทิศทางราคาน้ำมันระยะสั้น

ไทยออยล์คาดว่า ราคาน้ำมันดิบในสัปดาห์มีทิศทางผันผวนในขาลง จากความกังวลต่อภาพเศรษฐกิจโลก โดยราคาน้ำมันดิบเบรนท์จะเคลื่อนไหวอยู่ในกรอบ 110-118 เหรียญสหรัฐฯ ต่อบาร์เรล ส่วนเวสต์เท็กซัสที่กรอบ 90- 98 เหรียญสหรัฐฯ ต่อบาร์เรล ติดตามการประชุมของธนาคารกลางยุโรป และตัวเลขยอดผู้ขอรับสิทธิประโยชน์จากการของสหรัฐฯ ในวันนี้

-ราคาน้ำมันสำเร็จรูปที่ตลาดสิงคโปร์

ราคาน้ำมันเบนซิน ปรับลดลงมากกว่าราคาน้ำมันดิบดูไบ และตลาดน้ำมันเบนซินของสหรัฐฯ ที่ปรับตัวลดลง ประกอบกับ โรงกลั่นใหญ่ในไต้หวันที่หยุดดำเนินการไปเมื่อต้นสัปดาห์ประกาศว่า ยังมีปริมาณน้ำมันเบนซินสำรองคงคลังเพียงพอที่จะส่งออกให้กับลูกค้าตามสัญญาได้ในเดือนนี้

ราคาน้ำมันดีเซล ปรับลดลงตามราคาน้ำมันดิบดูไบ  และญี่ปุ่นส่งออกน้ำมันดีเซลเพิ่มขึ้น ทำให้ตลาดคลายความกังวลต่อการหยุดดำเนินการของโรงกลั่นใหญ่ในไต้หวัน

-ปัจจัยที่น่าจับตามอง

• ตัวเลขเศรษฐกิจสหรัฐฯ และ  / ตัวเลขผลประกอบการของบริษัทในตลาดหลักทรัพย์ ไตรมาส 2/54 ที่น่าติดตามในสัปดาห์นี้ ได้แก่
วันพฤหัส: ยอดผู้ขอรับสิทธิประโยชน์จากการว่างงาน และยอดขายร้านค้าสาขา / บริษัท คราฟต์ ฟู้ด รวมทั้ง การประชุมของธนาคารกลางยุโรป 
วันศุกร์: การจ้างงานนอกภาคเกษตร (คาดการณ์ ก.ค. มีการจ้างงานเพิ่มขึ้น 85,000 ตำแหน่ง) และอัตราการว่างงาน (คาดว่า จะอยู่ที่ 9.2%)

• สหรัฐฯ จะถูกปรับลดอันดับความน่าเชื่อถือลงจากระดับ AAA หรือไม่ หลังจากที่สามารถบรรลุข้อตกลงในการขยายเพดานหนี้และแผนการลดการขาดดุลงบประมาณได้สำเร็จ ซึ่งถ้าถูกปรับลดเครดิต จะส่งผลกระทบต่อการขยายตัวของเศรษฐกิจโลกได้ 

• รายละเอียดของแผนช่วยเหลือหนี้กรีซฉบับใหม่โดย EU/IMF อย่างเป็นทางการ มูลค่า 109,000 ล้านยูโร ที่คาดว่าจะแล้วเสร็จกลางเดือน ก.ย. หลังการประชุมผู้นำสหภาพยุโรปมีมติเห็นชอบวงเงินดังกล่าวในการประชุมวันที่ 21 ก.ค.

• ปัญหาหนี้สาธารณะของประเทศอื่นๆ ในยุโรป ว่าจะมีประเทศใดนอกจากกรีซ ต้องขอเงินช่วยเหลือเพิ่มเติมอีก หลังโปรตุเกสและไอร์แลนด์ถูกปรับลดอันดับความน่าเชื่อถือ

• ฤดูกาลเฮอริเคนในมหาสมุทรแอตแลนติก ที่มีการพยาการณ์ว่า จะมีจำนวนเฮอริเคนมากถึง 6-10 ลูก ในปีนี้ และกว่าครึ่งเป็นเฮอริเคนที่มีความแรง ซีงอาจจะส่งผลกระทบต่อการผลิตน้ำมันดิบและก๊าซธรรมชาติในอ่าวเม็กซิโก