แมคอาฟี บริษัทรักษาความปลอดภัยคอมพิวเตอร์ เผยว่าพบแฮกเกอร์เจาะระบบครั้งใหญ่ที่สุดอย่างที่ไม่เคยมีมาก่อน มีองค์กรระหว่างประเทศ รัฐบาลและบริษัทต่าง ๆ ทั่วโลกตกเป็นเหยื่อรวม 72 แห่ง
แมคอาฟีเชื่อว่า ทางการของประเทศหนึ่งอยู่เบื้องหลังการโจมตีครั้งนี้ แต่ไม่ขอระบุชื่อ ขณะที่ผู้เชี่ยวชาญของศูนย์เพื่อยุทธศาสตร์และระหว่างประเทศศึกษาชี้ว่า มีความเป็นไปได้มากว่าเป็นจีน เพราะเป้าหมายหลายแห่งมีข้อมูลที่เป็นประโยชน์แก่จีนเป็นพิเศษ
แมคอาฟีเผยรายชื่อยาวเหยียดของเหยื่อเจาระบบในช่วง 5 ปีที่ผ่านมาในรายงานหนา 14 หน้า
เช่น รัฐบาลสหรัฐ ไต้หวัน อินเดีย เกาหลีใต้ เวียดนาม และแคนาดา สหประชาชาติ (ยูเอ็น) สมาคมประชาชาติเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ (อาเซียน) คณะกรรมการโอลิมปิกสากล (ไอโอซี) องค์การต่อต้านการใช้สารต้องห้ามโลก บริษัทต่าง ๆ ตั้งแต่ผู้รับสัมปทานกลาโหมไปจนถึงบริษัทไฮเทค ซึ่งบริษัทได้แจ้งให้เหยื่อทั้งหมดทราบแล้ว
ในกรณีของยูเอ็น แฮกเกอร์เจาระบบของสำนักงานเลขาธิการในนครเจนีวาเมื่อปี 2551 ฝังตัวอยู่นานเกือบ 2 ปีและลอบเก็บข้อมูลลับโดยไม่ถูกสังเกต ข้อมูลทั้งหมดที่แฮกเกอร์ได้ไปถูกนำไปใช้อะไรยังไม่สามารถทราบได้ แต่หากนำไปใช้เพื่อให้ได้เปรียบคู่แข่งก็จะสร้างความเสียหายทางเศรษฐกิจอย่างมหาศาล
แมคอาฟีเผยว่า ทราบเรื่องเมื่อเดือนมีนาคมปีนี้
เมื่อคณะนักวิจัยของบริษัทตรวจพบบันทึกการเจาะระบบขณะตรวจสอบเนื้อหาของคอมมานด์แอนด์คอนโทรลเซิร์ฟเวอร์ตัวหนึ่งที่ได้ตรวจสอบมาตั้งแต่ปี 2552 เพื่อหาข้อมูลเรื่องบริษัทด้านกลาโหมถูกเจาระบบ สันนิษฐานว่าการเจาะระบบเริ่มมาตั้งแต่กลางปี 2549 แต่อาจมีการเจาะครั้งอื่นที่ยังตรวจไม่พบ.-สำนักข่าวไทย
พบแฮกเกอร์เจาะระบบทั่วโลกครั้งมโหฬารถึง 72 แห่ง
หน้าแรกTeeNee ที่นี่ข่าววันนี้, ข่าวหน้าหนึ่ง ข่าวอื่นๆ พบแฮกเกอร์เจาะระบบทั่วโลกครั้งมโหฬารถึง 72 แห่ง
เครดิต :
ข่าวดารา ข่าวในกระแส บน Facebook อัพเดตไว เร็วทันใจ คลิกที่นี่!!