ช็อก!ก๋วยเตี๋ยวจ่อขึ้นชามละ80บาท

นายดุสิต นนทะนาคร ประธานสภาหอการค้าแห่งประเทศไทย
 
เปิดเผยภายหลังการประชุมคณะกรรมการร่วมภาคเอกชน 3 สถาบัน (กกร.) ประกอบด้วย สภาหอการค้าแห่งประเทศไทย สภาอุตสาหกรรมแห่งประเทศไทย (ส.อ.ท.) และสมาคมธนาคารไทยว่า ที่ประชุมกกร. เตรียมเสนอผลกระทบการปรับขึ้นค่าแรงขั้นต่ำเป็น 300 บาท/วัน ให้รัฐบาลใหม่พิจารณาเป็นวาระแรก และภายใน 2 สัปดาห์หลังจัดตั้งรัฐบาลเรียบร้อยแล้ว จะเสนอผลกระทบจากนโยบายประชานิยมต่างๆ ให้รัฐบาลทราบ หลังจากให้มหาวิทยาลัยหอการค้าไทยศึกษา ซึ่งกกร.เป็นห่วงผู้ประกอบการขนาดกลางและขนาดย่อม (เอสเอ็มอี) จะได้รับผลกระทบอย่างหนัก

ด้านนายพยุงศักดิ์ ชาติสุทธิผล ประธานส.อ.ท. กล่าวว่า ค่าแรงขั้นต่ำที่ปรับขึ้นเป็น 300 บาท/วัน ทำให้ต้นทุนต่างๆ สูงขึ้น และแนวโน้มราคาสินค้ายังแพงขึ้นจากราคาน้ำมันและวัตถุดิบ ดังนั้น รัฐบาลควรปล่อยให้ราคาเป็นไปตามกลไกตลาดดีที่สุด หากตรึงราคามากเกินไป ปัญหาอื่นก็ตามมา จึงควรคุมราคาในระยะสั้นเท่านั้น

นายวิศิษฏ์ ลิ้มประนะ ประธานกลุ่มอุตสาหกรรมอาหาร ส.อ.ท. กล่าวว่า
 
การปรับขึ้นค่าแรงขั้นต่ำจะส่งผลให้ราคาสินค้า เช่น ราคาก๋วยเตี๋ยวอาจขยับเพิ่มเป็น 70-80 บาท/ชาม จากปัจจุบันอยู่ที่ 30-35 บาท/ชาม ขณะที่สินค้าในกลุ่มอุตสาหกรรมอาหาร คาดว่าจะปรับขึ้นอีก 20% หลังรัฐบาลขึ้นค่าแรงขั้นต่ำไปแล้ว 6 เดือน ดังนั้น นโยบายการปรับขึ้นค่าแรงขั้นต่ำดังกล่าวควรทำเป็นขั้นบันได โดยใช้เวลา 2 ปี เพื่อให้เอกชนได้ปรับตัว

"โครงสร้างราคาก๋วยเตี๋ยวที่จะปรับราคาขึ้นก็มาจากต้นทุนค่าแรง อย่างโรงงานผลิตลูกชิ้นค่าแรงกว่า 100 บาท/วัน ถ้าขึ้นเป็น 300 บาท/วัน ก็ต้องขึ้นราคา ไหนจะโรงงานผลิตเส้นก๋วยเตี๋ยว ต้นทุนวัตถุดิบอื่นๆ ทั้งถั่วงอก และพืชผักก็ต้องขึ้น ฐานมันจะปรับขึ้นหมดเป็นงูกินหาง เพื่อทดแทนค่าครองชีพที่ปรับตัวขึ้นสูง" นายวิศิษฏ์กล่าว

ส่วนนายอารักษ์ สุขสวัสดิ์ รองนายกสมาคมอุตสาหกรรมเครื่องเรือนไทย เปิดเผยว่า 12 สมาคมอุตสาหกรรมที่มีสมาชิก 2,273 ราย ซึ่ง 95% เป็นเอสเอ็มอี
 
และสัดส่วน 50% ของสมาชิกเป็นผู้ส่งออกที่จะได้รับผลกระทบทันทีและรุนแรงจากการปรับขึ้นค่าแรงขั้นต่ำ เนื่องจากเป็นอุตสาหกรรมที่มีมูลค่าการส่งออก 107,680 ล้านบาท/ปี และมีแรงงาน 972,000 คน ดังนั้น หากปรับค่าแรงเป็น 300 บาท/วัน จะทำให้ต้นทุนค่าแรงสูงขึ้น 35-40% แต่ต้นทุนรวมจะสูงขึ้นจากฐานเดิม 12-15% ส่งผลให้ผู้ประกอบการต้องปรับราคาขายขึ้น ขณะที่ทางลูกค้ายอมรับไม่ได้และจะยกเลิกคำสั่งซื้อ หันไปซื้อสินค้าประเทศคู่แข่งแทนทั้ง จีน เวียดนาม และอินโดนีเซีย

"ประเมินแล้วว่าหากต้องขึ้นค่าแรง 300 บาทในทันที จะทำให้ 12 สมาคมต้องปลดแรงงานทันที 3 แสนคน คิดเป็น 30% ของแรงงานกว่า 9 แสนคน ขณะที่ผู้ประกอบการอาจต้องปิดกิจการถึง 50% ของจำนวนผู้ประกอบการทั้งหมด เพราะไม่สามารถแบกรับภาระต้นทุนได้ ซึ่งผลกระทบตามมามากมาย ไม่ว่าจะเป็นปัญหาว่างงาน และอาจทำให้ประเทศเสียหายนับแสนล้าน จึงเตรียมเสนอผลกระทบให้รัฐบาลต่อไป" นายอารักษ์กล่าว

เครดิต :
เครดิต : เนื้อหาข่าว คุณภาพดี หนังสือพิมพ์ข่าวสด


ข่าวดารา ข่าวในกระแส บน Facebook อัพเดตไว เร็วทันใจ คลิกที่นี่!!
กระทู้เด็ดน่าแชร์