นายเกรียงศักดิ์ วรมงคลชัย อุปนายกฝ่ายปฏิบัติการและรองโฆษกสภาทนายความ แถลงว่า ตามที่ศาลอาญาได้มีคำพิพากษาเมื่อวันที่ 28 กรกฎาคม 2554
ในคดีอาญาหมายเลขดำที่ อ.3320/2552 ระหว่างพนักงานอัยการ, สำนักงานอัยการพิเศษ 4, สำนักงานอัยการสูงสุด โจทก์ นายสถาพร ศรีสะอาด โจทก์ร่วม ดาบตำรวจพิพรรธ แสนอินทร์ ที่ 1 กับพวกรวม 3 คน จำเลย ความผิดร่วมกันฆ่าผู้อื่นและร่วมกันพยายามฆ่าผู้อื่น โดยพิพากษาว่าจำเลยทั้งสามกระทำโดยประมาทเป็นเหตุให้ผู้อื่นถึงแก่ความตาย ลงโทษจำคุกคนละ 2 ปี ปรับคนละ 10,000 บาท โทษจำคุกให้รอการลงโทษไว้มีกำหนด 2 ปี นั้น
ในเรื่องนี้ สภาทนายความได้เข้าไปดำเนินการให้ความช่วยเหลือทางกฎหมาย ตั้งแต่หลังเกิดเหตุการณ์ เมื่อวันที่ 23 กุมภาพันธ์ 2546 โดยเข้าไปให้ความช่วยเหลือในการคัดค้านการไต่สวนการตายของ ด.ช.จักรพันธ์ หรือน้องฟลุ๊ค ศรีสะอาด ในคดีอาญาหมายเลขดำที่ อช.24/2549 คดีอาญาหมายเลขแดงที่ อช.4/2551 ของศาลอาญา จนศาลอาญาได้มีคำสั่งเกี่ยวกับการตายของ ด.ช.จักรพันธ์ หรือน้องฟลุ๊ค ศรีสะอาด เมื่อวันที่ 28 กุมภาพันธ์ 2551
ต่อมาเมื่อพนักงานอัยการได้ยื่นฟ้องดาบตำรวจพิพรรธ แสนอินทร์ กับพวกรวม 3 คน เป็นจำเลยต่อศาลอาญา สภาทนายความก็ได้ให้ความช่วยเหลือทางกฎหมายในการเข้าเป็นโจทก์ร่วมกับพนักงานอัยการจนกระทั่งศาลอาญาได้มีคำพิพากษาว่าจำเลยทั้งสามกระทำโดยประมาทเป็นเหตุให้ผู้อื่นถึงแก่ความตาย ส่วนการดำเนินการให้ความช่วยเหลือทางกฎหมายในชั้นอุทธรณ์นั้น อยู่ระหว่างการพิจารณาพยานหลักฐานและคำพิพากษาของศาลอาญา ซึ่งขึ้นอยู่กับนายสถาพร ศรีสะอาด นางเรียบ เกิดรุ่งเรือง โจทก์ร่วมในคดีมีความประสงค์ที่จะให้อุทธรณ์หรือไม่
นอกจากคดีนี้แล้ว ยังมีอีกคดีหนึ่ง คือ สำนวนคดีการหายตัวของนางพรวิภา เกิดรุ่งเรือง ซึ่งเป็นภรรยาของนายสถาพร ศรีสะอาด และเป็นแม่ของ ด.ช.จักรพันธ์ หรือน้องฟลุ๊ค ศรีสะอาด ซึ่งอยู่ระหว่างการสอบสวนของกรมสอบสวนคดีพิเศษ