ผู้อำนวยการศูนย์เตือนภัยฯ เผย พร้อมรับมือพายุนกเตน ที่จะพัดเข้าประเทศไทยเร็วๆ นี้ ขอให้ฟังข้อมูลจากศูนย์เตือนภัยทุกระยะ
น.อ.สมศักดิ์ ขาวสุวรรณ ผู้อำนวยการศูนย์เตือนภัยพิบัติแห่งชาติ (ศภช.) เปิดเผยถึงอิทธิพลของพายุโซนร้อนนกเตน ที่จะทำให้มีฝนตกชุกหนาแน่น ภาคตะวันออกเฉียงเหนือ และภาคเหนือ ช่วงวันที่ 30 - 31 ก.ค. ว่า
ขณะนี้ ศภช. ได้แจ้งเตือนประชาชนในพื้นที่เสี่ยงให้เฝ้าระวังแล้ว แต่ตั้ง จ.เชียงราย จ.เพชรบูรณ์ จ.พิษณุโลก จ.แพร่ จ.น่าน ส่วนภาคตะวันออกเฉียงเหนือ จ.หนองคาย จ.บึงกาฬ จ.สกลนคร จ.นครพนม ซึ่งเป็นจังหวัดที่ได้รับผลกระทบเรื่องน้ำอยู่บ่อยครั้ง
นอกจากนี้ ศภช. ยังได้แจ้งเรื่องการพร่องน้ำของเขื่อน อาทิ เขื่อนป่าสักชลสิทธิ์ ซึ่งประชาชนที่อยู่ในแนวแม่น้ำเจ้าพระยา อย่าตื่นตกใจ เนื่องจากอาจจะมีปริมาณน้ำสูงขึ้นบ้าง
น.อ.สมศักดิ์ กล่าวอีกว่า ส่วนความเร็วของพายุโซนร้อนนกเตน เบื้องต้นอยู่ที่ประมาณ 18 กิโลเมตรต่อชั่วโมง ขณะที่ความเร็วในการเคลื่อนตัวอยู่ที่ 10 กิโลเมตรต่อชั่วโมง จึงถือว่ามีความรุนแรงไม่มาก และน้อยกว่าพายุไหหม่า ซึ่งพายุโซนร้อนนกเตน จะเดินทางเข้าประเทศเวียดนาม เท่านั้น แต่ประเทศไทยอาจจะได้รับอิทธิพลของพายุนกเตนไม่มาก แต่หากจะมีอิทธิพลของพายุโซนร้อนนกเตน เข้ามาประเทศ ศภช. ก็จะทำหน้าที่เฝ้าระวัง และทำการแจ้งเตือน
โดยเฉพาะประชาชนที่อยู่ที่ราบเชิงเขาภาคเหนือ ให้พร้อมอพยพไปในที่ปลอดภัย ส่วนประชาชนที่อยู่ที่ราบลุ่มแม่น้ำเจ้าพระยา อาทิ จ.สิงห์บุรี จ.อ่างทอง จ.พระนครศรีอยุธยา จ.ปทุมธานี อาจได้รับผลกระทบจากกระแสน้ำที่สูงขึ้นบ้าง แต่อย่าวิตก และย้ำอีกว่า ถ้าพายุเข้ามาก็ยังดูอยู่ โดยทำงานประสานกับกรมชลประทาน และกรมอุตุนิยมวิทยาตลอด
ซึ่งที่ผ่านมาได้ทำหนังสือถึงหลายหน่วยงานว่าตามสถิติช่วงเดือน ส.ค. - พ.ย. ให้เฝ้าระวังพื้นที่เสี่ยง เพราะอาจจะมีพายุเข้าประเทศไทยได้ประมาณ 1 - 2 ลูก เนื่องจากเป็นช่วงมรสุม จึงขอให้ประชาชนเตรียมความพร้อม โดยทางศูนย์เตือนภัยฯ จะพร้อมจะเฝ้าระวังแต่ทำการแจ้งเตือนประชาชนตลอดเวลา