นายไมตรี ปิตินานนท์ ผู้อำนวยการโครงการชลประทาน จ.พระนครศรีอยุธยา เปิดเผยว่า มีข้อมูลจากกรมชลประทานและการไฟฟ้าฝ่ายผลิตแห่งประเทศไทย ระบุว่า
ขอให้ประชาชนในพื้นที่ลุ่มภาคกลางหรือในพื้นที่ลุ่มน้ำเจ้าพระยา เตรียมความพร้อมในการป้องกันน้ำท่วมเทียบเท่าปี 2553 ที่ผ่านมา เพราะชัดเจนว่ามีฝนตกชุกต่อเนื่องในเขตภาคเหนือจำนวนมาก และระยะเวลาช่วงฝนตกหนักยังเหลืออีก 3-4 เดือน คือ จากช่วงนี้เป็นต้นไปจนถึงต้นเดือนพฤศจิกายน 2554 จึงขอให้ประชาชนตรวจสอบข้อมูลว่าในปี 2553 พื้นที่ใดที่ถูกน้ำท่วม และเคยท่วมอยู่ในระดับความสูงเท่าใด ก็ขอให้ประชาชนได้เตรียมความพร้อมเพื่อรับมือน้ำท่วมในปลายปลายฤดูฝนของปี 2554 นี้ เทียบเท่าระดับความเสียหายสูงสุดของปี 2553 โดยคาดว่าหากฝนทางภาคเหนือยังตกชุกเช่นนี้ น้ำอาจเริ่มท่วมหนักในช่วงเดือนปลายเดือนสิงหาคมหรือต้นตุลาคมนี้เช่นกัน
สถานการณ์น้ำเหนือหลากล่าสุดพบว่า ระดับน้ำเหนือหลากในแม่น้ำปิง วัง ยม ยังไม่สูงมากนัก แต่ที่น่าห่วงที่สุดคือแม่น้ำน่าน เพราะมีฝนตกชุกในต้นลุ่มน้ำน่าน จนล่าสุดการไฟฟ้าฝ่ายผลิตแห่งประเทศไทยออกมากำหนดแนวทางว่าจะเร่งปล่อยน้ำจากเขื่อนสิริกิติ์ จ.อุตรดิตถ์ เพราะว่าน้ำในเขื่อนที่ปัจจุบันกักเก็บไว้เหนือเขื่อนมีประมาณสูงมากถึง 7,302 ล้านลูกบาศก์เมตร หรือ 76.78% ซึ่งยังเหลือพื้นที่รับน้ำอีก 2,208 ล้านลูกบาศก์เมตร หรือ 23.22% ก็จะเต็มความจุของเขื่อน แต่ในทางปฏิบัติพบว่า จะมีการเก็บสำรองน้ำไว้ที่ไม่เกิน 80% ของความจุของอ่างเก็บน้ำเหนือเขื่อน ซึ่งหมายความว่ายังเหลือปริมาณอีกไม่มากนักที่จะกักเก็บน้ำได้ เพราะปัจจุบันเก็บน้ำไว้มากถึง 76.78%" นายไมตรีกล่าว
สำหรับในเขต จ.พระนครศรีอยุธยา ได้รับการประสานจากนายวิทยา ผิวผ่อง ผวจ.พระนครศรีอยุธยา สำนักงานป้องกันและบรรเทาสาธารณภัยจังหวัด หน่วยงานกระทรวงเกษตรและสหกรณ์ เช่น ชลประทานจังหวัด, เกษตรจังหวัด รวมถึงองค์กรปกครองส่วนท้องถิ่น, อบจ., เทศบาล, อบต., กำนัน, ผู้ใหญ่บ้าน แจ้งเตือนไปถึงประชาชนที่ปลูกสร้างบ้านอาศัยริมน้ำเกษตรกรที่ทำการเกษตรนอกเขตชลประทาน หรือทำการเกษตรริมน้ำ ให้ระมัดระวังและเตรียมความพร้อมรับมือหากระดับน้ำในแม่น้ำเจ้าพระยาจะล้นตลิ่ง และเชื่อว่า อ.บางบาลจะเป็นอำเภอแรกของจังหวัดที่จะได้รับผลกระทบจากปริมาณน้ำเหนือหลากในฤดูฝนนี้.