อัดจำนำข้าวไทยเสียแชมป์คาดส่งออกปีหน้าลดลง50%

นายชูเกียรติ โอภาสวงศ์ นายกกิตติมศักดิ์สมาคมผู้ส่งออกข้าวไทย

เปิดเผยว่า นโยบายการกำหนดราคารับจำนำข้าวสูงถึงตันละ 15,000-20,000 บาท จะทำให้ปริมาณส่งออกข้าวไทยในปีหน้าลดลงจากปี 54 ประมาณ 50% เหลือยอดส่งออกประมาณ 5-6 ล้านตัน และไทยอาจต้องสูญเสียตลาดส่งออกข้าวขาวและข้าวหอมมะลิให้เวียดนาม เสียตลาดข้าวนึ่งให้อินเดีย เนื่องจากนโยบายจำนำจะทำให้ราคาส่งออก (เอฟโอบี) สูงขึ้นเกินกว่าจะแข่งขันได้ โดยข้าวขาวจะเพิ่มจากตันละ 530-540 ดอลลาร์สหรัฐ เป็นตันละ 830 ดอลลาร์สหรัฐ ส่วนข้าวหอมมะลิจะเพิ่มเป็นตันละ 1,400 ดอลลาร์สหรัฐ

“หากรัฐบาลไม่มีนโยบายช่วยเหลือในการทำตลาดแก่ผู้ส่งออกบ้าง เชื่อว่าจะทำให้ไทยสูญเสียความสามารถในการแข่งขันและสูญเสียการเป็นผู้นำส่งออกข้าวไทยได้ ดังนั้น รัฐบาลใหม่ต้องเตรียมมาตรการช่วยเหลือ และอุดหนุนราคาไม่ให้สูงกว่าคู่แข่ง เช่น การตั้งราคาระบายข้าวใกล้เคียงกับราคาตลาด และทบทวนการตั้งราคารับจำนำข้าวใหม่”

ร.ต.ท.เจริญ เหล่าธรรมทัศน์ อุปนายกสมาคมผู้ส่งออกข้าวไทย กล่าวว่า
 
ผู้ส่งออกอาจหาทางออกด้วยการหันไปซื้อข้าวจากประเทศเพื่อนบ้าน เช่น เวียดนาม กัมพูชา พม่า ซึ่งมีต้นทุนต่ำกว่าไทยมาทำตลาดส่งออกแทน เนื่องจากราคาจำนำที่ตั้งไว้ เป็นราคาที่เพิ่มขึ้นแบบก้าวกระโดด ยากต่อการทำตลาด จึงต้องหาข้าวในระดับที่เหมาะสมมาส่งออก

น.ส.กอบสุข เอี่ยมสุรีย์ นายกสมาคมผู้ส่งออกข้าวไทย กล่าวว่า ปัจจัยเสี่ยงที่มีต่อการส่งออกข้าวไทยในปี 54 และปี 55 จะมีทั้งเรื่องค่าเงินบาทแข็งค่าขึ้น

โดยหลังการเลือกตั้งทั่วไปค่าเงินบาทแข็งค่าขึ้นจาก 30.25 บาทต่อดอลลาร์สหรัฐ มาเป็น 29.50 บาทต่อดอลลาร์สหรัฐ หรือแข็งค่าขึ้นประมาณ 3% จึงต้องการให้รัฐบาลดูแลไม่ให้ค่าเงินบาทแข็งค่ามากจนแตกต่างกับประเทศคู่แข่งเกินไป

นอกจากประเทศผู้ส่งออกข้าวเคยชะลอการส่งออก เช่น อินเดียซึ่งเป็นคู่แข่งตลาดข้าวนึ่งของไทยก็กลับมาส่งออกอีกครั้ง

โดยประกาศจะส่งออกข้าวนึ่ง  1 ล้านตัน ในเร็ว ๆ นี้ โดยข้าวนึ่งจากอินเดียได้เปรียบข้าวนึ่งไทยในด้านราคาที่ถูกกว่าถึงตันละ 50-100 ดอลลาร์สหรัฐและจะทำให้ไทยสูญเสียตลาดข้าวนึ่งอีกครั้ง ที่สำคัญนโยบายรับจำนำข้าวตันละ 15,000-20,000 บาท จะทำให้ต้นทุนของผู้ส่งออกสูงขึ้น อีกทั้งปีหน้าคาดว่าผลผลิตข้าวเปลือกนาปีจะสูงถึง 25 ล้านตัน ทำให้ข้าวมากและทำตลาดได้ยาก

“ปีนี้การส่งออกข้าวไทยอาจจะไม่มีปัญหามากนัก เพราะ 7 เดือน ส่งออกได้เกิน 7.07 ล้านตันแล้ว และมีโอกาสได้ถึง 10 ล้านตัน แต่ในอนาคตยังมีปัจจัยเสี่ยงอีกมาก และต้องรอความชัดเจนนโยบายการบริหารจัดการข้าวของรัฐบาลใหม่ ทั้งข้าวเก่าในสต๊อกรัฐบาล และข้าวใหม่ รวมถึงมาตรการที่ออกมาช่วยเหลือผู้ส่งออก ซึ่งยืนยันว่าปริมาณข้าวในประเทศยังเพียงพอที่จะส่งออกได้เดือนละ 1 ล้านตัน แต่เกรงว่าจะแข่งขันด้านราคาไม่ได้เท่านั้น โดยราคาข้าวไทยยังสูงกว่าเวียดนาม และอินเดียถึงตันละกว่า 50 ดอลลาร์สหรัฐ”

ส่วนในสัปดาห์หน้า กระทรวงพาณิชย์ จะเชิญประชุมผู้เกี่ยวข้องด้านข้าว

เพื่อเสนอข้อเสนอต่าง ๆ ต่อรัฐบาลใหม่ ซึ่งสมาคมฯจะนำข้อมูลสถานการณ์การค้าข้าวและผลกระทบจากนโยบายการตั้งราคารับจำนำข้าวที่สูงเกินไป และรัฐบาลต้องมาดูแลอย่างไร เพราะไม่เช่นนั้นจะกระทบต่อชาวนาในอนาคต

นายสมเกียรติ มรรคยาธร นายกสมาคมข้าวถุงไทย กล่าวว่า การส่งออกข้าวเดือนละ 1 ล้านตัน อาจมีผลต่อข้าวถุงในประเทศบ้างที่ลดลง แต่จะไม่กระทบมาก เพราะข้าวใหม่ก็จะออกมาชดเชยทุก 4 เดือน และยิ่งปีนี้ทางการประเมินว่าปริมาณผลผลิตจะเพิ่มถึง 25 ล้านตัน สูงกว่าคาดการณ์ไว้ที่ 21-22 ล้านตัน.

เครดิต :
เครดิต : เดลินิวส์ (อ่านความจริง อ่านเดลินิวส์)


ข่าวดารา ข่าวในกระแส บน Facebook อัพเดตไว เร็วทันใจ คลิกที่นี่!!
กระทู้เด็ดน่าแชร์