ประยุทธ์ อัดสื่อ-อาจารย์ วิจารณ์ทุจริตจัดซื้อ ฮ. พูดไม่รับผิดชอบ

"...ถ้าวิจารณ์ต้องวิจารณ์ทุกระบบของกองทัพบก แม้แต่ในระบบของประเทศไทยก็ต้องผิดทั้งหมด ยืนยันว่าถ้าเป็นอย่างนั้นก็ผิดทั้งหมด..."

คำให้สัมภาษณ์ของ พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา ผู้บัญชาการทหารบก ที่วัดทุ่งลาดหญ้า จ.กาญจนบุรี เมื่อวันที่ 25 กรกฎาคม ระหว่างร่วมในพิธีพระราชทานน้ำหลวงอาบศพ พล.ต.ตะวัน เรืองศรี ผู้บัญชาการกองพลทหารราบที่ 9 (ผบ.พล.ร.9) และคณะจากเหตุเฮลิคอปเตอร์แบล๊กฮอว์กตกบริเวณอุทยานแห่งชาติป่าแก่งกระจาน จ.เพชรบุรี รวม 9 คน เมื่อวันที่ 19 กรกฎาคมที่ผ่านมา


"การสูญเสียครั้งนี้เป็นการสูญเสียครั้งที่ยิ่งใหญ่ที่สุด ในเวลาไม่ถึง 10 วันสูญเสียถึง 17 ชีวิต ที่ผ่านมากองทัพบกปฏิบัติภารกิจอย่างต่อเนื่องในทุกภารกิจ และมีการบาดเจ็บสูญเสียมาอย่างต่อเนื่อง แต่ถือเป็นการสูญเสียตามเหตุการณ์ ไม่ว่าจะเป็นสถานการณ์ภาคใต้ แต่ครั้งนี้เกิดจากการไปช่วยนำศพผู้เสียชีวิตจากการปฏิบัติหน้าที่ของชุดพิทักษ์ป่า เนื่องจากเราเข้าไปสนับสนุนการดูแลการบุกรุกทำลายป่าของกระทรวงทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม เหตุการณ์ที่เกิดขึ้นเป็นเรื่องน่าเสียใจ และเป็นการสูญเสียครั้งร้ายแรง


ที่ถามถึงกรณีอาวุธยุทโธปกรณ์มีปัญหานั้น ถ้าคิดว่ามูลค่ายุทโธปกรณ์มีมูลค่ามากหลายร้อยล้าน แต่เทียบค่าไม่ได้แม้แต่ชีวิตเพียงชีวิตเดียว อยากเรียนให้สังคมรับรู้ว่า ที่ผ่านมากองทัพบกพยายามดูแลกำลังพลทุกระดับชั้นให้ดีที่สุด การจะวิพากษ์วิจารณ์หรือการแสดงความคิดเห็นใดๆ ก็ตาม ต้องอยู่ในหลักความเป็นจริง ต้องเข้าใจหลักเกณฑ์ต่างๆ ในการทำงานของกองทัพ


ในฐานะที่กองทัพบกเป็นหน่วยงานใหญ่ มีศูนย์ปฏิบัติการของกองทัพบกโดยมี ผบ.ทบ.เป็นผู้ควบคุมอำนวยการในทุกเรื่อง ถ้ามีเหตุการณ์เกิดขึ้น ผบ.ทบ.เป็นผู้สั่งการผู้เดียวเท่านั้น


ที่ผ่านมากองทัพบกสั่งการให้กองทัพภาคที่ 1 ค้นหาตามหลักการ เพราะกองพลทหารราบที่ 9 อยู่ในความรับผิดชอบของกองทัพภาคที่ 1 โดยเราใช้เครื่องมือที่มีอยู่ปัจจุบันที่ถือว่าทันสมัยที่สุด และในประเทศอาเซียนก็ใช้อากาศยานเช่นนี้ ทั้งแบล๊กฮอว์ก ฮิวอี้ หรือเบลล์ 212


อย่าไปกล่าวอ้างว่า การที่มีเครื่องมือดีแล้วจะทำอะไรได้ดีขึ้น ด้วยสถานะของเราในปัจจุบันไม่ได้มีเครื่องมือที่ทันสมัยสูงสุด จะไปเหมือนประเทศมหาอำนาจคงไม่ได้ แต่เรามีหลักการในการทำงาน มีขั้นตอนตั้งแต่ต้นจนถึงทุกวันนี้


ทุกส่วนได้ปฏิบัติหน้าที่ของเขาตามหลักการ แต่สิ่งที่เราห้ามไม่ได้ คือ อุบัติเหตุ เรื่องลมฟ้าอากาศ เราห้ามคนได้ ห้ามไม่ให้เครื่องบินขึ้นได้ แต่ที่ผ่านมาได้มีการตรวจสอบและแจ้งว่า สามารถใช้อากาศยานบินขึ้นได้จึงบินขึ้นไป แต่เมื่อเกิดอุบัติเหตุก็เกิดความสูญเสีย จึงเป็นบทเรียนว่าวันข้างหน้าจะดำเนินการอย่างไรต่อไป จะต้องรอเวลา 5-10 วัน ก็ต้องลำเลียงให้ได้ ใช้เวลานานเท่าไรก็ต้องยอม


ดังนั้นต้องให้คณะกรรมการเข้าไปทดสอบดู ส่วนอากาศยานที่เก่า ทุกประเภทก็ยังใช้อยู่ เรามีหน่วยงานที่รับผิดชอบดูแล ไม่ใช่ ผบ.ทบ.ดูแลทุกเรื่อง ตั้งแต่ชิ้นส่วน อะไหล่เฮลิคอปเตอร์ หรือการจัดซื้อจัดจ้าง มีองค์กรในการดำเนินการอยู่


ในทางปฏิบัติมีศูนย์ปฏิบัติการกองทัพภาคที่ 1-4 และการจัดซื้อจัดหามีกรมฝ่ายเสนาธิการกำหนดความต้องการ และฝ่ายยุทธการเป็นผู้จัดซื้อจัดหา และมีสำนักงานตรวจสอบภายในตรวจสอบว่าผิดหรือถูก ถ้าผิดจะถูกร้องเรียนไปที่สำนักงานการตรวจเงินแผ่นดิน (สตง.) ถือเป็นระบบ จะบอกว่า เหตุการณ์ที่เกิดขึ้นครั้งนี้ เกิดจากการทุจริตในการจัดซื้อจัดจ้าง ถือเป็นคนละประเด็น อย่าวิจารณ์อย่างนั้น เพราะถ้าวิจารณ์ต้องวิจารณ์ทุกระบบของกองทัพบก แม้แต่ในระบบของประเทศไทยก็ต้องผิดทั้งหมด ยืนยันว่าถ้าเป็นอย่างนั้นก็ผิดทั้งหมด


อยากเรียนว่า การวิจารณ์สามารถทำได้ แต่ต้องเอาหลักข้อเท็จจริงมาพูด ให้ความเป็นธรรมกับคนเขา เหตุการณ์ที่เกิดขึ้น 1.เป็นอุบัติเหตุ 2.สุดวิสัย และ 3.เครื่องยนต์ขัดข้อง ซึ่งสามเรื่องเกิดขึ้นในเวลาเดียวกันทำให้กระทบต่อความรู้สึก แต่ผมเรียนว่าทหารท้อแท้ไม่ได้ เราเผชิญสถานการณ์อย่างนี้หลายครั้งแล้ว แต่ครั้งนี้ส่งผลกระทบมาก ทุกครั้งที่ ฮ.ตก กองทัพบกเสียใจทุกครั้ง กองทัพบกไม่รู้จะทำอย่างไร เพราะเราไม่ได้ผลิตเครื่องบินเอง เราซื้อเข้ามา แต่การบำรุงเป็นไปตามกติกาของบริษัทผู้ผลิต คือ สหรัฐอเมริกาที่ผลิตมา เราซ่อมตามเขา ตามคู่มือทุกอย่าง แม้จะมีอายุการใช้งานมา 20 ปี เรามีระบบการซ่อมบำรุงประจำวัน ทั้งก่อนใช้และหลังใช้ ตั้งแต่ 50 ชั่วโมง 100 ชั่วโมง เรามีการเปลี่ยนตลอดเวลา


อย่าบอกว่าเหมือนรถยนต์ และจะซ่อมอย่างไรก็ได้

ผมเป็น ผบ.ทบ.เป็นผู้อนุมัติก็จริง แต่บอกไว้แล้วว่าทุกคนต้องมีจิตสำนึก เราต้องสร้างองค์กรกองทัพบกให้โปร่งใส มีประสิทธิภาพ และตรวจสอบได้ ดังนั้นต้องเอาข้อเท็จจริงมาพูดกัน อย่ามาเท้าความวันนั้นวันนี้ หรือเรื่องนั้นเรื่องนี้ คนละเรื่องกัน ผมไม่สามารถเอาชีวิตของกำลังพลมาเสี่ยงได้ ไม่สามารถเอาครอบครัวมาร้องไห้ต่อหน้าพวกเรา ใครยอมรับได้บ้าง ถ้าใครทนได้มาเป็นแทนผม


ผมเรียนว่าสิ่งที่ ทบ.ทำ ผมทำ แม่ทัพภาคที่ 1 ทำ ทุกคนทำอย่างเต็มที่ ไม่อยากให้เกิดอะไรทั้งสิ้น แต่เมื่อเกิดขึ้นแล้วเราพร้อมรับคำวิพากษ์วิจาณ์ พร้อมนำไปแก้ไข นำไปเป็นบทเรียน แต่ท่านมาบอกว่าการตกครั้งนี้แสดงว่ามีเหตุการณ์ทุจริตเกิดขึ้น ถามว่าเขาซื้อมา 20 ปี และซ่อมมานานเป็นสิบปีแล้ว พูดไม่รับผิดชอบแบบนี้ไม่ได้


นักวิชาการหลายคนรู้ทุกเรื่อง รู้เรื่องรบ เรื่องชายแดน เรื่องทหารก็รู้ นี่ ฮ.ตกยังรู้อีก ซึ่งคนเดิมออกมาพูด แล้วผมถามกลับไปว่ารับผิดชอบอะไรหรือเปล่า ถ้าไม่ใช่ ใครจะรับผิดชอบ กองทัพบกเสียหาย ประชาชน และสังคมเข้าใจผิด กำลังพลกองทัพบกเสียขวัญ ใครจะรับผิดชอบ


ผมถามว่าคนที่ออกมาพูดรับผิดชอบหรือไม่ หนังสือพิมพ์บางฉบับ ทีวีบางช่อง นักวิชาการบางคน ผมไม่อยากพูด แต่ทำให้ผมกดดัน แล้วเราและประเทศชาติจะอยู่อย่างไร ถ้าท่านไม่มีเหตุผลเลย อยากพูดอะไรก็พูด ทำอะไรก็ทำ เว็บไซต์เฟซบุ๊กนักข่าวฉบับหนึ่ง เขียนเสียหายมาก


ผมเรียนตรงนี้เลย หนังสือพิมพ์บางฉบับ สื่อทีวีบางช่อง ผมจำเป็นต้องออกมาพูด ถ้าประเทศไทยหรือคนไทยไม่เรียนรู้ว่าจะอยู่ร่วมกันอย่างไร ก็อย่าอยู่กันเลย เสียเวลาเปล่า ดังนั้นต้องมีกติกา กฎหมายช่วยกันแก้ไขปัญหาบ้านเมืองให้ไปในวันข้างหน้าให้ได้


กองทัพบกต้องอยู่ ผมจะอยู่หรือไม่ ผมไม่สนใจ แต่กองทัพบกต้องอยู่ด้วยชื่อเสียง เกียรติยศกองทัพบกกำหนดแล้วว่า จะต้องเดินหน้าไปอย่างไร กองทัพบกมีพันธะกิจ 4 ประการที่ต้องดำเนินการ อยากให้การเสียชีวิตเป็นบทเรียนที่คุ้มค่า แล้วเราพร้อมเรียนรู้ สังคมว่าอย่างไร แต่ขอวิพากษ์วิจารณ์ให้ถูกต้องมีหลักเกณฑ์ ทำอย่างไรที่ทำให้ผู้เสียชีวิตไม่เสียเปล่า คือการรักษาแผ่นดินไทยไว้ให้ลูกหลาน สิ่งที่กองทัพบกคิดเสมอคือ การรักษาทรัพยากรให้ลูกหลาน หากในอนาคต ถ้าไม่ทำวันนี้ วันหน้าอยู่ไม่ได้"


เครดิต :
เครดิต :เนื้อหาข่าว คุณภาพดี หนังสือพิมพ์มติชน


ข่าวดารา ข่าวในกระแส บน Facebook อัพเดตไว เร็วทันใจ คลิกที่นี่!!
กระทู้เด็ดน่าแชร์