เมื่อ 25 ก.ค. เดลี่เมล์รายงานความคืบหน้าเหตุการณ์สังหารหมู่ช็อกโลก 93 ศพ ที่นอร์เวย์ เมื่อวันศุกร์ที่ผ่านมา ว่า
กษัตริย์ฮารัลด์ และราชินีซอนย่า ทรงเข้าร่วมพิธีรำลึกถึงเหยื่อในเหตุการณ์ดังกล่าว ที่มหาวิหารออสโล ในเมืองหลวง กษัตริย์ฮารัลด์ ตรัสว่า เหตุการณ์นี้เป็นโศกนาฏกรรมของประเทศ โดยเป็นเหตุการณ์ความรุนแรงที่ร้ายแรงที่สุดนับจากสงครามโลกครั้งที่สอง และเกิดในประเทศที่สงบสุขที่มีประชากร 4.8 ล้านคน
ในพิธีดังกล่าวเต็มไปด้วยบรรยากาศโศกเศร้า ผู้คนต่างร้องไห้และนำดอกไม้มาวางไว้อาลัยให้เหยื่อเต็มลานหน้ามหาวิหารที่จัดงาน ส่วนกษัตริย์และราชินีทรงร้องไห้ด้วยเช่นกัน
สำหรับการสอบสวนคดี มีรายละเอียดเพิ่มเติมว่า นายแอนเดอร์ส เบรวิก วัย 32 ปี มือปืนผู้ก่อเหตุโดยลำพัง
ทั้งระเบิดอาคารรัฐบาลและปลอมตัวเป็นตำรวจไปยิงกราดเหยื่อนักเรียนที่ค่ายเยาวชนบนเกาะอูโทย่า ที่อยู่ใกล้กรุงออสโล แพทย์พบว่า ใช้กระสุนแบบดัมดัม ที่เข้าไประเบิดในร่างกายเหยื่อ ส่วนผู้เชี่ยวชาญระบุว่า กระสุนชนิดนี้มีน้ำหนักเบา และยิงแม่นในระยะไกล ปกตินายพรานไว้ใช้ล่าสัตว์ขนาดเล็ก คาดว่าคนร้ายเลือกกระสุนชนิดนี้เพื่อจะบรรทุกมาได้มาก และเล็งยิงเหยื่อแบบกราดโดยไม่ต้องปรับการมอง
นายเกร์ ลิปป์สตัด ทนายความของผู้ต้องหา กล่าวว่า นายเบรวิกให้การรับสารภาพว่าลงมือก่อเหตุซ้อนทั้งสองเหตุการณ์ แต่ไม่ยอมรับผิดทางอาญา
โดยจะให้เหตุผลกับศาลในวันจันทร์ที่ 25 ก.ค. ทั้งนี้ ก่อนลงมือ นายเบรวิกลงข้อความทางอินเตอร์เน็ต ว่าเกลียดชังชาวมุสลิม และต้องการให้ยุโรปทำสงครามศาสนาต่อชาวมุสลิม