บรรยากาศค้าขายชายแดนไทย-เขมรคึกคัก หลัง“ฮุนเซ็น”ประกาศยอมเจรจากับ“ยิ่งลักษณ์”
เมื่อวันที่ 24 ก.ค. ผู้สื่อข่าวรายงานจากด่านพรมแดนอรัญประเทศ จ.สระแก้ว หลังจากหนังสือพิมพ์กัมพูชาหลายฉบับเสนอข่าว สมเด็จ ฮุนเซ็น นายกรัฐมนตรีประเทศกัมพูชา ประกาศจะยอมเจรจาแก้ไขปัญหากรณีปราสาทเขาพระวิหาแบบทวิภาคกับประเทศไทย ที่มี น.ส.ยิ่งลักษณ์ ชินวัตร เป็นนายกรัฐมนตรี และจะยอมถอนกำลังทหารออกจากพื้นที่ 4.6 ตารางกิโลเมตร รอบปราสาทเขาพระวิหารตามคำสั่งของศาลโลก ทำให้บรรยากาศการค้าขายที่ตลาดโรงเกลือ อ.อรัญประเทศ จ.สระแก้ว คึกคักเป็นพิเศษ มีนักท่องเที่ยวและกลุ่มพ่อค้าแม่ค้าทั้งชาวไทยและชาวกัมพูชาเดินทางเข้ามาจับจ่ายซื้อสินค้าเป็นจำนวนมาก นอกจากนั้นยังมีนักท่องเที่ยวทั้งชาวไทย ชาวต่างชาติจำนวนมากเดินทางข้ามไปยังฝั่งปอยเปต ประเทศกัมพูชา เพื่อเดินทางต่อไปเที่ยวชมนครวัด และแหล่งท่องเที่ยวต่างๆของประเทศกัมพูชา
ส่วนที่จุดผ่านแดนถาวรช่องสะงำ อ.ภูสิงห์ จ.ศรีสะเกษ
ตั้งแต่ช่วงเช้าของวันที่ 24 ก.ค. ซึ่งเป็นวันตลาดนัดชายแดนไทย – กัมพูชา ได้มีพ่อค้า-แม่ค้า ประชาชนชาวกัมพูชามายืนรอบริเวณหน้าประตูด่านกันเป็นจำนวนมาก เพื่อรอข้ามแดนเข้ามาซื้อหาสินค้า ของใช้ที่จำเป็นกลับไปใช้ และไปขายยังฝั่งกัมพูชา เมื่อเจ้าหน้าที่ด่านทำการเปิดประตู ต่างก็แย่งกัน วิ่งกรูเบียดเสียดข้ามเข้ามายังฝั่งไทย เพราะหากใครเข้ามาก่อนก็มีโอกาสที่จะได้เลือกซื้อสินค้าได้ก่อน ได้สินค้าคุณภาพดีๆก่อน
ทางด้านนายหัตชัย เพ็งแจ่ม ผู้ประสานงานการค้าชายแดนไทย -- กัมพูชา เปิดเผยว่า
ภายหลังจากศาลโลกมีคำสั่งให้มีการถอนทหาร ออกจากชายแดนบริเวณเขาพระวิหาร ส่งผลให้เกิดความมั่นใจแก่ราษฎรทั้งสองประเทศ ในการข้ามไป-มาหาสู่ เพื่อค้าขายกันเหมือนเดิม วันนี้ชายแดนกำลังเจริญ การท่องเที่ยวจากไทยสู่กัมพูชา เพื่อเที่ยวชมสิ่งมหัศจรรย์ของโลกยังนครวัต นครธม ที่จังหวัดเสียมราช เส้นทางไทยร่วมกับกัมพูชา พัฒนาเป็นถนนลาดยางตลอด 135 กิโลเมตร สะดวกมาก สามารถเดินทางไปกลับได้ภายในวันเดียว หากทุกฝ่ายร่วมมือกันทั้งช่องเขาพระวิหาร และช่องสะงำ ไทย – กัมพูชา เชื่อว่าจะมีคนทั่วโลกมาเที่ยวกันมาก ทั้งสองชาติจะได้ประโยชน์จากการท่องเที่ยวด้วยมูลค่ามหาศาล