ผวาข้าวแพงซ้ำรอยปาล์ม แห่ซื้อกักตุน

พ่อบ้านแม่บ้านแห่กักตุน เหตุหวั่นขาดตลาดซ้ำรอยปาล์ม ย้ำอย่าหวั่นวิตก ยันข้าวไม่ขาดตลาดไม่อนุมัติขึ้นราคา ขู่พวกฉวยโอกาสขึ้นราคาโกยผลประโยชน์ เตรียมลุยตลาดเช็กบิล ด้าน อคส. ระบุชัดข้าวสต๊อกรัฐเหลือเยอะ 2 ล้านตัน พร้อมรับนโยบายพาณิชย์ผลิตข้าวถุงราคาต้นทุนออกขาย
   
ความคืบหน้ากรณีราคาข้าวเปลือก และข้าวสารขยับสูงขึ้นในประเทศ เมื่อวันที่ 22 ก.ค. นายยรรยง พวงราช ปลัดกระทรวงพาณิชย์ กล่าวว่า

ราคาข้าวสารที่สูงขึ้นช่วงนี้ มีสาเหตุจาก 2 ส่วน คือ นโยบายรับจำนำข้าวเปลือกตันละ 1.5 หมื่นบาท และปริมาณข้าวในช่วงปลายฤดูเก็บเกี่ยวมีผลผลิตน้อย แต่ยืนยันว่า ข้าวสารบรรจุถุงไม่ขาดตลาด และกระทรวงพาณิชย์จะไม่อนุมัติให้ขึ้นราคาช่วงนี้แน่นอน ขณะเดียวกันยังได้ให้องค์การคลังสินค้า (อคส.) จัดทำข้าวสารบรรจุถุงในราคาต้นทุน และขอความร่วมมือสมาคมโรงสีข้าวนำข้าวออกจำหน่ายให้กับประชาชน และในวันที่ 23 ก.ค.  ตนจะนำเจ้าหน้าที่ออกตรวจสอบติดตามสถานการณ์ราคาข้าวถุงตามต่างจังหวัด เพื่อป้องกันการฉวยโอกาสการขึ้นราคาและรับฟังปัญหาจากผู้ประกอบการในพื้นที่
   
ด้านนายอนุกูล แต้มประเสริฐ ผู้อำนวยการองค์การคลังสินค้า กล่าวว่า ปัจจุบัน อคส.ได้ทำธุรกิจผลิตและจำหน่ายข้าวถุงขายทั่วประเทศอยู่แล้ว

แต่หากสถานการณ์ข้าวในประเทศเกิดผิดปกติ อคส. ก็พร้อมเข้าไปช่วย รวมทั้งประสานงานกับโรงสีทั่วประเทศในการเพิ่มผลิตข้าวถุงเพิ่มเพื่อบรรเทาความเดือดร้อนแก่ประชาชน ซึ่งระหว่างนี้ขออย่าตื่นตระหนก เพราะประเทศไทยมีข้าวสารอยู่มากและในรัฐบาลก็มีสต๊อกข้าวเกือบ 2 ล้านตัน หากรัฐมีนโยบายให้นำผลิตเป็นข้าวถุง อคส. ก็พร้อมดำเนินการได้ทันที
   
สำหรับความกังวลในเรื่องราคาข้าวเปลือกและข้าวสารที่ขยับสูงขึ้นนั้น ผู้สื่อข่าวรายงานว่า ประชาชนบางส่วนเริ่มหันมาซื้อข้าวกักตุนไว้ เพราะกลัวว่าจะเกิดปัญหาข้าวถุงขาดแคลน และราคาสูงเหมือนวิกฤติน้ำมันปาล์มเมื่อปีที่แล้ว โดยจากการสำรวจราคาข้าวสารในกรุงเทพมหานคร ช่วง 1-2 สัปดาห์ที่ผ่านมา พบว่าราคาข้าวสารตักตวงตามร้านค้าปลีกได้ปรับสูงขึ้นกิโลกรัมละ 2 บาท โดยข้าวเจ้า 100% อยู่ที่ กิโลกรัมละ 27-31 บาท ข้าวหอมมะลิ กิโลกรัมละ 38-40 บาท ซึ่งเป็นการปรับขึ้นตามต้นทุนข้าวเปลือกที่เพิ่มขึ้น 
   
ส่วนความเคลื่อนไหวตามต่างจังหวัด ชาว จ.นครสวรรค์ เริ่มซื้อข้าวสารกักตุนไว้บริโภค หลังจากราคาข้าวสารในท้องตลาดปรับราคาขึ้นเฉลี่ยกิโลกรัมละ 2-5 บาท จากถุงละ 255 บาท เป็น 260-270 บาท โดยเจ้าของร้านจำหน่ายข้าวสาร แจ้งว่าราคาข้าวสาร ปรับขึ้นตามต้นทุนข้าวเปลือกของโรงสี ซึ่งเป็นผลมาจากนโยบายรับจำนำข้าวที่รัฐบาลชุดใหม่เตรียมนำมาใช้ไม่ใช่การกักตุนสินค้าของร้านค้าข้าวเพื่อหวังผลกำไร ขณะที่ จ.พิษณุโลก สำนักงานการค้าภายในได้เริ่มออกตรวจสอบสต๊อกข้าวเปลือกตามโรงสีต่าง ๆ เพื่อเตรียมข้อมูลสำหรับนโยบายรับจำนำข้าวของรัฐบาลชุดใหม่ เพื่อสามารถเปิดรับจำนำข้าวได้ทันการประกาศใช้ รวมทั้งตรวจสอบการกักตุนข้าวสารเพื่อสวมสิทธิในโครงการรับจำนำ แต่ไม่พบความผิดปกติ.