“พาณิชย์”สั่งลดราคาเนื้อไก่ทุกชนิดลงกิโลละ 5 บาท มีผล 21 ก.ค.นี้ หลังไก่มีชีวิตมีราคาลดลง พร้อมส่งสายตรวจออกตรวจตั้งแต่สัปดาห์หน้าเป็นต้นไป ยันข้าวถุงไม่ขาดแคลน
เมื่อวันที่ 20 ก.ค.นางพรทิวา นาคาศัย รมว.พาณิชย์ เปิดเผยว่า กระทรวงพาณิชย์ประกาศปรับลดราคาแนะนำไก่เนื้อลง กก.ละ 5 บาท โดยมีผลตั้งแต่วันที่ 21 ก.ค. ซึ่งราคาในเขตกรุงเทพฯ ปริมณฑล และภาคกลาง ไก่สดทั้งตัว (รวมเครื่องใน) ลดจากกก.ละ 70 บาท เหลือ 65 บาท ไก่สดทั้งตัว (ไม่รวมเครื่องใน) จากกก.ละ 75 บาท เหลือ 70 บาท และเนื้อไก่ จากกก.ละ 85-92 บาท เหลือ 80-85 บาท ส่วนภาคเหนือให้ขายสูงกว่าราคาแนะนำได้ไม่เกิน กก.ละ 2 บาท ภาคตะวันออกเฉียงเหนือ ไม่เกินกก.ละ 3 บาท ภาคใต้ ไม่เกินกก.ละ 5 บาท และระหว่างนี้ให้ผู้จำหน่ายมีเวลาปรับตัวกรณีมีสต็อกเดิม 3-4 วัน
“การปรับลดราคาจำหน่ายไก่เนื้อทุกประเภท เนื่องจากเห็นว่าราคาไก่มีชีวิตได้ปรับตัวลดลงมาอย่างต่อเนื่อง ราคาขายปลีกก็ต้องลดลงตาม ซึ่งถือเป็นการดูแลค่าครองชีพให้กับผู้บริโภค นอกจากนี้ตั้งแต่สัปดาห์หน้า กระทรวงฯจะจัดให้มีสายตรวจพิเศษ เพื่อออกตรวจสอบการจำหน่ายเนื้อไก่ทั้งห้างค้าปลีก และตลาดสดทั่วไป หากพบว่า ยังจำหน่ายไก่เนื้อสูงเกินราคาแนะนำ โดยไม่เหตุผลอันสมควร จะดำเนินการตามกฎหมายโดยเคร่งครัด โดยมีโทษจำคุกไม่เกิน 7 ปี ปรับไม่เกิน 1.4 แสนบาท หรือทั้งจำทั้งปรับ ตามมาตรา 29 แห่งพ.ร.บ.ว่าด้วยราคาสินค้าและบริการ” นางพรทิวา กล่าว
รมว.พาณิชย์ กล่าวต่อว่า ส่วนปัญหาเนื้อหมูแพง ได้สั่งการให้กรมการค้าภายในติดตามสถานการณ์อย่างใกล้ชิด
เพราะขณะนี้ปริมาณยังตึงตัว และให้ดูแลการขนย้ายตามจังหวัดแนวชายแดนอย่างต่อเนื่อง เพื่อป้องกันการลักลอบส่งออกหมูไปยังประเทศเพื่อนบ้าน จนทำให้หมูในประเทศขาดแคลน คาดว่า ตั้งแต่เดือนหน้า ราคาเนื้อหมูจะปรับลดลง หลังจากที่ผลผลิตหมูเพิ่มขึ้น จากการที่อากาศเย็น และหมูโตเร็ว
ส่วนกรณีประชาชนแตกตื่นว่าข้าวในประเทศจะขาดแคลน และห้างค้าปลีกบางแห่งจำกัดการซื้อนั้น
ขอยืนยันว่าข้าวในประเทศไม่ได้ขาดแคลน มีเพียงพอต่อการบริโภคในประเทศ โดยเฉพาะข้าวสารบรรจุถุง จากการตรวจสอบพบว่าราคาขายยังไม่ได้ปรับขึ้น และกระทรวงฯก็ไม่มีนโยบายที่จะให้สินค้าข้าวถุงขึ้นราคาด้วย ดังนั้น ประชาชนไม่ควรแตกตื่น
“ตอนนี้ ได้ให้เจ้าหน้าที่ไปตรวจสอบสต็อก ซึ่งในส่วนของห้างค้าปลีก พบว่ามีเพียงพอที่จะขายได้นานถึง 2 เดือน เป็นเครื่องยืนยันได้ว่า ข้าวจะไม่ขาดแคลน ประชาชนยังหาซื้อได้ปกติ หรือถ้าขาดจริงๆ โรงสีก็พร้อมที่จะผลิตใส่ถุงขาย หรือแม้แต่องค์การคลังสินค้า (อคส.) ที่เป็นรัฐวิสาหกิจในกระทรวงพาณิชย์ ก็พร้อมที่จะทำบรรจุถุงขาย แต่เท่าที่ประเมิน ไม่มีสัญญาณว่าข้าวจะขาดแคลน และอีก 2 เดือนข้าวฤดูกาลใหม่ก็จะออกแล้ว ข้าวมีเพียงพอที่จะบริโภคและส่งออกแน่นอน”
สำหรับแนวโน้มสถานการณ์ข้าวในอนาคต หลังจากเปิดรับจำนำอาจทำให้ต้นทุนข้าวถุงสูงขึ้น
จนรัฐต้องนำข้าวในสต๊อกรัฐบาลมาทำข้าวถุงธงฟ้าหรือไม่นั้น เป็นเรื่องที่รัฐบาลใหม่ต้องตัดสินใจ แต่ภายใต้การบริหารงานของรัฐบาลชุดนี้ยืนยันว่าไม่มีการปรับขึ้นราคาข้าวถุง อย่างไรก็ตาม ไม่อยากให้คาดการณ์ไปว่าข้าวต้นทุนข้าวจะสูงขึ้นไปมาก เพราะข้าวนาปีฤดูกาลใหม่ที่จะมาในเดือนพ.ย. มีมากถึง 22-23 ล้านตันข้าวเปลือก ซึ่งจะทำให้ราคาข้าวไม่ปรับตัวสูงขึ้นไปมาก เพราะข้าวในตลาดมีมาก ขณะเดียวกันกระทรวงพาณิชย์ได้เตรียมที่จัดโครงการลดค่าครองชีพให้กับประชาชนทั่งประเทศ ในวันพาณิชย์ 20 ส.ค. โดยขอความร่วมมือห้างค้าปลีกสมัยใหม่ (โมเดิร์นเทรด) และห้างสรรพสินค้า จัดกิจกรรมลดราคาสินค้าทั่วประเทศระหว่างวันที่ 19-21 ส.ค. ซึ่งได้รับการตอบรับแล้ว โดยยินดีที่จะลดราคาสินค้าตั้งแต่ 10-50% ทุกสาขาทั่วประเทศ.