เมื่อวันที่ 12 ก.ค. ผู้สื่อข่าวรายงานว่าปริมาณฝนที่ตกลงมาอย่างต่อเนื่องตลอด 2 วัน 2 คืน ที่ผ่านมา ในพื้นที่หมู่ที่ 1 เขตเทศบาลปากน้ำท่าเรือ อ.เมือง จ.ระนอง
จนไม่สามารถระบายน้ำลงสู่ลำคลองและทะเลได้ทันและไหลบ่าเข้าท่วมบ้านเรือนประชาชนสร้างความเดือดร้อนให้แก่ประชาชนที่พักอาศัยในพื้นที่และที่ใช้ยวดยานพาหนะสัญจรไปมาเป็นไปด้วยความยากลำบาก โดยเฉพาะในบริเวณซอยร้านเจ๊จิ๋ม น้ำได้ไหลเข้าท่วมบ้านเรือนประชาชนหลายสิบหลังคาเรือน ทำให้ประชาชนและผู้ที่ใช้ยวดยานพาหนะในการสัญจรไปมาต้องเพิ่มความระมัดระวังอย่างมาก เพราะฝาท่อระบายน้ำบางส่วนในซอยถูกเปิดไว้เพื่อให้การระบายน้ำทำได้รวดเร็วขึ้น สำหรับสาเหตุที่ไม่สามารถระบายน้ำได้ทันน่าจะมาจากการที่เทศบาลท่าเรือปากน้ำได้ทำการวางท่อระบายน้ำใหม่ แต่มีขนาดเล็กกว่าเดิม และมีการสร้างคันปิดทางน้ำไหลเดิมที่อยู่ต่ำกว่าพื้นถนนและสามารถระบายน้ำได้ดีอยู่แล้ว เพื่อบังคับน้ำให้ไหลไปลงท่อระบายน้ำที่วางใหม่ซึ่งมีขนาดเล็กและสูงกว่าพื้นถนนจึงทำให้การระบายน้ำเป็นไปด้วยความยากลำบาก โดยชาวบ้านเชื่อว่าน้ำจะยังคงท่วมต่อไปเนื่องจากปริมาณฝนที่ยังคงตกลงมาอย่างต่อเนื่อง
สำหรับสถานการณ์น้ำท่วมในพื้นที่จังหวัดพิษณุโลกและพิจิตร เมื่อเวลา 11.00 น.วันเดียวกัน
นายอภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ นายกรัฐมนตรี ได้เปิดเผยว่า ขณะนี้ตนได้รับรายงานเกี่ยวกับสถานการณ์น้ำท่วมว่า ในพื้นที่ส่วนใหญ่น้ำได้ลดลงแล้ว จะยังก็เพียงบางพื้นที่ แต่จากการตรวจสอบพบว่าไม่ได้ท่วมเข้าไปในชุมชนแต่อย่างใด ซึ่งตนได้สั่งการให้หน่วยงานที่รับผิดชอบในแต่ละจังหวัดดำเนินการช่วยเหลือบรรเทาความเดือดร้อนให้ชาวบ้านที่รับผลกระทบ และถ้าหากมีความจำเป็นตนก็จะลงพื้นที่เพื่อไปดูสภาพและหาทางป้องกันแก้ไขเพราะมีรายงานว่าใน 2-3 วันข้างหน้ายังมีความเสี่ยงอยู่.