ภาคเอกชนยื่น 5 ข้อเสนอ ดับเครื่องชนนโยบายรัฐบาลใหม่ ขึ้นค่าจ้างขั้นต่ำ 300 บาท ห่วงธุรกิจ 1 ล้านรายเจ๊ง “ยิ่งลักษณ์”ย้ำ ค่าแรงขั้นต่ำ 300 บาทเริ่มใช้ปี 55
เมื่อวันที่ 12 ก.ค.ที่พรรคเพื่อไทย น.ส.ยิ่งลักษณ์ ชินวัตร ว่าที่นายกรัฐมนตรี ให้สัมภาษณ์ตอนหนึ่งถึงนโยบายที่หาเสียงไว้กับประชาชน เรื่องการขึ้นค่าแรงขั้นต่ำ 300 บาทต่อวัน ว่าเรามีความตั้งใจที่จะผลักดันให้เกิดขึ้นจริง แต่คงต้องให้เวลาแต่ละช่วงในการปรับตัว เราต้องฟังจากหลายภาคส่วน โดยเฉพาะบริษัทที่อยู่ในองค์กรขนาดเล็ก หรือตามต่างจังหวัดที่อาจจะมีผลกระทบ ดังนั้นต้องขอฟังรายละเอียด และดูว่าภาครัฐจะให้การสนับสนุนอย่างไร เมื่อถามว่าแสดงว่าการขึ้นค่าแรงจะทำเฉพาะในกรุงเทพฯ ก่อนใช่หรือไม่ น.ส.ยิ่งลักษณ์ กล่าวปฏิเสธว่าไม่ใช่ แต่จะขอฟังรายละเอียดทั้งหมดก่อน เพราะจุดนี้ต้องทำงานร่วมกับกระทรวงแรงงาน ฟังความเห็นจากภาคเอกชน และหลายภาคส่วน นอกจากนี้คงต้องหารือกับฝ่ายที่ดูแลด้านงบประมาณทั้งหมดด้วย
เมื่อถามว่าดูเหมือนธุรกิจเอสเอ็มอี ยืนยันว่าแบกรับค่าแรงขั้นต่ำ 300 บาทไม่ได้
หากไม่มีการช่วยเหลือในด้านอื่นจะทำอย่างไร น.ส.ยิ่งลักษณ์ กล่าวว่าก็จะหาวิธีการช่วยเหลือ เพราะเราอยากเห็นการกระตุ้น และส่งเสริมภาคการผลิตควบคู่กันไป ทั้งนี้นโยบายขึ้นค่าแรงขั้นต่ำ 300 บาทจะยังไม่ทำภายในปี 2554 ตามแผนที่วางไว้ คือจะเริ่มดำเนินการในเดือน ม.ค.2555 เพราะเราอยากทำควบคู่กับภาคอุตสาหกรรม และภาคธุรกิจด้วย เมื่อถามว่าหลายนโยบายต้องใช้งบประมาณจำนวนมาก ได้หารือกับกระทรวงการคลังหรือยังว่าจะนำเงินมาจากส่วนไหน น.ส.ยิ่งลักษณ์ กล่าวว่า ขอหารือกับกระทรวงการคลังก่อน ซึ่งส่วนหนึ่งก็เป็นหน้าที่ของผู้ที่จะมาดำรงตำแหน่ง รมว.คลัง ด้วย
นายจารุพงศ์ เรืองสุวรรณ เลขาธิการพรรคเพื่อไทย กล่าวถึงกรณีที่ประชุมคณะกรรมการค่าจ้างกลางมีข้อเสนอให้ปรับค่าจ้างขั้นต่ำ 300 บาทต่อวันในพื้นที่กรุงเทพฯ และปริมณฑล รวมถึงภูเก็ตแล้วว่า
พรรคเพื่อไทยยินดีรับฟังข้อมูลจากทุกฝ่ายทั้งจากคณะกรรมการค่าจ้างกลาง นายจ้าง ลูกจ้างและนักวิชาการ และจะนำข้อมูลเหล่านี้มาประกอบการพิจารณาในการดำเนินนโยบายปรับค่าจ้างขั้นต่ำ 300 บาทต่อวัน ทั้งนี้นโยบายนี้จะมีความชัดเจนหลังจากมีการแต่งตั้งรัฐมนตรีกระทรวงต่างๆ เรียบร้อยแล้ว อย่างไรก็ตามกรณีที่ภาคธุรกิจห่วงว่าธุรกิจเอสเอ็มอีจะเสียหายจากนโยบายนี้ ทางพรรคได้เตรียมมาตรการรองรับไว้แล้วด้านนายชาลี ลอยสูง ประธานคณะกรรมการสมานฉันท์แรงงานไทย(คสรท.) กล่าวว่า อยากให้มีการปรับค่าจ้างขั้นต่ำเป็น 300 บาทต่อวันเท่ากันทั่วประเทศ ไม่ควรเลือกปรับเพียงบางจังหวัดเพราะแรงงานทั้งประเทศก็ต้องใช้จ่ายเหมือนกัน ก่อนหน้านี้พรรคเพื่อไทยประกาศนโยบายว่าหากได้เป็นรัฐบาลจะขึ้นค่าจ้างเป็น 300 บาทต่อวัน รวมทั้งปรับเงินเดือนผู้จบปริญญาตรีรุ่นใหม่เป็น 1.5 หมื่นบาทต่อเดือน ทำให้พี่น้องแรงงานเทคะแนนให้ตามที่ได้หาเสียง ถ้าไม่ทำตามที่สัญญาไว้ก็เหมือนเป็นการหลอกพี่น้องแรงงานทั่วประเทศ