ศาลยุติธรรมระหว่างประเทศของสหประชาชาติ เตรียมพิจารณาคำร้องของกัมพูชา ที่ต้องการให้ ไทยถอนทหารออกจากพื้นที่พิพาท บริเวณพรมแดนของทั้ง 2 ประเทศ ในวันที่ 18 ก.ค. นี้
ศาลยุติธรรมระหว่างประเทศของสหประชาชาติ หรือ ศาลโลก ระบุในแถลงการณ์ว่า จะมีการพิจารณาตัดสินคำร้องของกัมพูชาต่อกรณีดังกล่าว ในวันที่ 18 ก.ค.นี้ ซึ่งเมื่อปลายเดือน เม.ย. ที่ผ่านมา กัมพูชา ได้ยื่นเรื่องต่อศาลโลกให้ตีความคำตัดสินของศาลโลก เมื่อปี 2505 ที่ให้ปราสาทพระวิหาร เป็นของกัมพูชา และให้ออกเป็นมาตรการวินิจฉัยคุ้มครองชั่วคราวให้ไทย ต้องถอนทหารทั้งหมดออกจากพื้นที่พิพาทดังกล่าว รวมถึง ห้ามไม่ให้มีกิจกรรมทางทหารในพื้นที่ ขณะที่ ทางการไทย ยืนยันมาตลอดว่า ยอมรับคำตัดสินของศาลโลก เมื่อปี 2505 แต่เน้นย้ำให้ศาลเห็นว่า ไม่มีอำนาจที่จะออกมาตรการชั่วคราวตามที่ฝ่ายกัมพูชาขอ เพราะเป็นเรื่องของเขตแดน
ทั้งนี้ กรณีที่ศาลโลก นัดฟังคำวินิจฉัย 18 ก.ค.นี้ เนื่องจาก กัมพูชา ยื่นคำร้องคุ้มครองชั่วคราว ให้ไทยถอนกำลังทหารออกจากบริเวณปราสาทพระวิหารต่อศาลโลก หลังจากที่ ขอให้ทั้งฝ่ายไทยและกัมพูชา จัดส่งข้อมูลเพิ่มเติมภายเมื่อ วันที่ 7 มิถุนายน และส่งคำชี้แจงของแต่ละประเทศให้อีกฝ่ายหนึ่ง ทำข้อมูลแย้ง
และส่งคืนศาล เมื่อวันที่ 14 มิถุนายนที่ผ่านมา ก่อนหน้านี้ ฝ่ายกัมพูชา ซึ่งเป็นผู้ยื่นคำตีความและคำขอคุ้มครองชั่วคราว กล่าวอ้างว่า คำตัดสินของศาลโลก เมื่อปี 2505 ตัดสินให้ตัวปราสาทพระวิหารเป็นของกัมพูชาไปแล้ว ตามแผนที่ 1:200,000 ที่ กัมพูชา ยึดถือ ซึ่งรวมถึงบริเวณพื้นที่ 4.6 ตร.กม. ด้วย
ขณะที่ ฝ่ายไทย โต้แย้งว่า คำตัดสินของศาลโลกครั้งนั้น ตัดสินเฉพาะตัวปราสาท ไม่ได้ตัดสินเรื่องเส้นเขตแดน และไทย ก็ปฏิบัติตามคำตัดสินของศาลโลก ครบถ้วนแล้ว มีการขีดเส้นรอบอาณาบริเวณตัวปราสาทให้แล้ว และกัมพูชาก็ยอมรับโดยมิได้ทักท้วงใด ๆ จนกระทั่ง เมื่อปี 2550 กัมพูชา เอาปราสาทพระวิหารไปขึ้นทะเบียนมรดกโลกแต่เพียงฝ่ายเดียว จึงอยากได้พื้นที่ 4.6 ตร.กม. รวมเข้าไปด้วย เพื่อให้แผนบริหารจัดการพื้นที่รอบปราสาทพระวิหารมีความสมบูรณ์
กระทู้ร้อนแรงที่สุดของวันนี้
กระทู้ล่าสุด
รูปเด่นน่าดูที่สุดของวันนี้
