โมนาโกฉลองอภิเษก ต้อนรับเจ้าหญิงองค์ใหม่

แม้จะมีข่าวลืออื้อฉาวมาปั่นป่วน เจ้าชายอัลแบร์ที่ 2 ประมุขแห่งโมนาโก ราชวงศ์เก่าแก่แห่งยุโรป

ว่าทรงมีบุตรนอกสมรสรายที่ 3 ปรากฏตัว แต่พระราชพิธีอภิเษกสมรสของเจ้าชายกับสาวสามัญชน ชาร์ลีน วิตต์สตŠอก อดีตนักกีฬาว่ายน้ำโอลิมปิกชาวแอฟริกาใต้ ยังคงดำเนินไปตามกำหนดเดิม ท่ามกลางบรรยากาศชื่นมื่นของชาวโมนาโก ประเทศขนาดเล็กที่สุดในโลก มีประชากรเพียง 7,618 คน

เป็นการยุติการรอคอยเจ้าหญิงพระองค์ใหม่ของราชวงศ์และตระกูลกรีมัลดี ตระกูลเก่าแก่ที่สุดในยุโรป ยาวนานถึง 3 ทศวรรษ

นับจากงานอภิเษกครั้งสุดท้ายที่เจ้าชายรานิเยร์ที่ 3 ทรงอภิเษกสมรสกับเกรซ เคลลี่ นางเอกฮอลลีวู้ดชื่อก้องโลก

ในวันที่ 1 ก.ค. เป็นการจดทะเบียนสมรส และในวันที่ 2 ก.ค. เป็นพระราชพิธีอภิเษกสมรสที่มีตัวแทนของราชวงศ์ต่างๆ ทั่วโลก รวมถึงพระเจ้าหลานเธอ พระองค์เจ้าสิริวัณณวรีนารีรัตน์ จากประเทศไทย พร้อมแขกเหรื่อดาราคนดังมากมาย รวมกว่า 3,500 คน เช่น โรเจอร์ มัวร์ พระเอกเจมส์บอนด์ นิโกลาส์ ซาร์โกซี ประธานาธิบดีฝรั่งเศส คาร์ล ลา เกอร์เฟลด์ ดีไซเนอร์ชื่อดังชาวเยอรมัน มิเชล โหยว ซูเปอร์สตาร์เอเชีย

นอกจากนี้ยังมีนักข่าวทั่วยุโรปและจากประเทศอื่นๆ กว่า 1,000 คน

เจ้าชายอัลแบร์ ชันษา 53 ปี และชาร์ลีน วิตต์สตŠอก วัย 33 ปี ในชุดเจ้าสาวเรียบหรูสง่างามของห้องเสื้อจิออร์จิโอ อาร์มานี พรี เว แต่งหน้าเพียงเล็กน้อย ทรงประกอบพิธีทางศาสนาที่ปลาซ ดู ปาเลซ์

ทั้งคู่กล่าวคำปฏิญาณรับเป็นสามีภรรยา พร้อมสวมแหวนทองคำขาว 18 กะรัต แลกเปลี่ยนเพื่อยืนยันความรัก ขณะที่อาร์กบิช็อปประกาศว่า "สิ่งที่พระเจ้าได้รวมไว้ให้ชิดสนิทกัน ทั้งสองต้องไม่แยกจากกัน"

หลังจากพิธีดังกล่าวดำเนินมาเป็นเวลาหนึ่งชั่วโมงครึ่ง ชาร์ลีน ซึ่งกลายเป็นเจ้าหญิงร้องไห้ออกมาด้วยความซาบซึ้งใจ
 
เมื่อทรงวางช่อดอกไม้สีขาวที่โบสถ์แซงต์เดโวเต ตามราชประเพณีของโมนาโก ก่อนจะเสด็จออกจากพระ ราชวัง พร้อมด้วยเสียงระฆัง และกลีบกุหลาบที่โปรยอยู่ด้านหน้าทางเดิน เป็นอันเสร็จสิ้นพิธีแห่งประวัติศาสตร์หน้าใหม่ของโมนาโก

สำหรับเจ้าหญิงคนใหม่ของโมนาโก เกิดที่ซิมบับเว แต่ย้ายมาอยู่ในแอฟริกาใต้ แม่เป็นโค้ชว่ายน้ำ ทำให้หญิงสาวเติบโตเป็นนักกีฬาและได้เป็นตัวแทนประเทศร่วมแข่งมห กรรมกีฬาโอลิมปิก 2000 หรือพ.ศ.2543 ที่ซิดนีย์ ออสเตรเลีย

ชาร์ลีนพบกับเจ้าชายอัลแบร์ในการแข่งขันว่ายน้ำที่โมนาโกในปีนั้นเอง และเริ่มออกงานสังคมร่วมกับเจ้าชายมากขึ้นเรื่อยๆ กระทั่งปี 2549 จึงย้ายไปโมนาโก แต่จากนั้นไม่ออกงานบ่อยนัก กระทั่งปีที่แล้ว จึงมีการประกาศว่าทั้งสองจะอภิ เษกกันในปี 2554 นี้

ชุดเจ้าสาวของเจ้าหญิงชาร์ลีน จากห้องเสื้ออาร์มานี ใช้ผ้าไหมชนิดต่างๆ ตัดรวมกันกว่า 130 เมตร ใช้คริสตัลของ สวารอฟสกีประดับกว่า 40,000 เม็ด และใช้ลูกปัดไข่มุกอีก 20,000 เม็ด รวมเวลาตัดทั้งหมด 2,500 ชั่วโมง ส่วนผ้าคลุมศีรษะเจ้าสาวมีความยาวกว่า 5 เมตร

ด้านสมาชิกในราชวงศ์ของตระกูลกรีมัลดี เสด็จร่วมงานพร้อมหน้า ทั้งเจ้าหญิง สเตฟานี เจ้าหญิงแคโรไลน์ และที่สื่อมวลชนสนใจเป็นพิเศษคือ เจ้าหญิงชาร์ล็อต คาซีรากี สาวราชวงศ์คนดังของยุโรปมาในชุดสีชมพู โชว์ไหล่ของห้องเสื้อชาเนล

ในช่วงดึก มีการจัดงานเลี้ยงฉลองในหมู่แขกรับเชิญ 450 คน ที่มี อแลง ดูกาส ชาวฝรั่งเศสเป็นผู้จัดเตรียมเมนูสุดพิเศษ ทั้งไวน์และแชมเปญมาจากแอฟริกาใต้ บ้านเกิดของเจ้าสาว ตามด้วยการจุดดอกไม้ไฟระยิบระยับกลางท้องฟ้าของโมนาโก