เรือประมง จอดหลบลมมรสุม บริเวณหัวเขื่อน อ.เพ จ.ระยอง ถูกคลื่นทะเลซัด พลิกคว่ำ ลูกเรือ 2 ราย จมน้ำเสียชีวิต สูญหาย 1 ราย
เมื่อเวลา 04.30 น. นายภุชงค์ สฤษฎีชัยกุล ผู้อำนวยการศูนย์อนุรักษ์ทรัพยากรทางทะเลและชายฝั่ง จังหวัดระยอง ได้รับแจ้ง มีเหตุเรือประมงล่ม มีผู้สูญหาย จึงนำกำลังเจ้าหน้าที่ พร้อมนักประดาน้ำ ขึ้นเรือเร็ว ออกให้การช่วยเหลือ ที่เกิดเหตุ บริเวณหัวเขื่อน ห่างจากฝั่งบ้านเพ ประมาณ 1 กิโลเมตร
พบเรือประมง ชื่อโชคนำทรัพย์ 9 เป็นเรือวางลอบปู ขนาด 7 วา พลิกคว่ำ ด้านเก๋งตะแคง จมน้ำทะเล ลึกประมาณ 5 เมตร ลูกเรือ ที่รอดชีวิต 4 คน ได้ถูกเรือประมงโชคนำทรัพย์ 2 ที่ จอดอยู่ใกล้กัน ช่วยเหลือ ทราบว่า ยังมีลูกเรือ อีก 3 คน สูญหาย คาดว่า น่าจะหลบอยู่ภายในเก๋งเรือ นักประดาน้ำ จึงดำน้ำเข้าไปเพื่อช่วยเหลือ โดยได้ใช้เวลาในการค้นหานานประมาณ 20 นาที จึงสามารถนำร่าง ของลูกเรือ 2 คน ขึ้นมาได้
ทราบชื่อต่อมาคือ นายตี้ อายุ 20 ปี นายเผือก อายุ 26 ปี ชาวกัมพูชา ส่วน นายมน อายุ 23 ปี ยังค้นหาไม่พบ เนื่องจาก น้ำเริ่มลดลง และน้ำมันจากถังเก็บในเรือ ไหลทะลักออกมา ปนกับน้ำทะเล จนไม่สามารถ ดำน้ำเข้าไปค้นหาได้
จากการสอบถาม นายโชติวัน แซ่ลิ้ม อายุ 24 ปี อยู่บ้านเลขที่ 77 ม.2 บ้านหนองม่วง ต.โคกสูง จ.สระแก้ว ลูกเรือที่รอดชีวิต ทราบว่า เมื่อคืน นายเชื่อม (ไม่ทราบนามสกุล) ไต้ก๋งเรือ ได้นำเรือมาจอด หลบลมมรสุม บริเวณเหนือเขื่อนจุดที่เกิดเหตุ แล้วนายเชื่อมได้ขึ้นฝั่งไปเที่ยว จะกลับมาตอนเช้า เพื่อนำเรือออกหาปู
จนกระทั่ง เวลาประมาณ 04.00 น. มีลมแรงพัดเรือที่จอดพลิกตะแคง ลูกเรือ ที่มีอยู่ทั้งหมด 7 คน ต่างพากันตะเกียกตะกายหนีออกจากเรือ เพื่อเอาชีวิตรอด แต่ นายตี้กับนายเผือกและนายมน กลับไม่หนีออกนอกเรือ กระโดดเข้าไปอยู่ในเก๋งเรือ เมื่อเรือค่อย ๆ จม จนมิดเก๋ง ทั้งหมดจึงออกมาไม่ได้
แม้ว่า จะมีชาวประมงและเจ้าหน้าที่ จากศูนย์อนุรักษ์ทรัพยากรทางทะเลและชายฝั่ง จังหวัดระยอง เข้าช่วยเหลือ แต่ไม่ทัน นายตี้ และนายเผือก สำลักน้ำ ที่มีน้ำมันปะปน จนขาดใจตาย ส่วนนายมน กำลังอยู่ระหว่างการค้นหา เพราะต้องรอเรือมาช่วยพลิกด้านเก๋งขึ้น คาดว่า น่าจะเสียชีวิตแล้ว