พ่อ“ปุ้ย”พิธีกรผู้หญิงถึงผู้หญิงโวยกกต.

พ่อ “ปุ้ย-พิมลวรรณ” พิธีกรรายการผู้หญิงถึงผู้หญิงทางช่อง 3 โวยเสียสิทธิเลือกตั้ง 3 ก.ค.นี้

ที่ศูนย์ข่าวเดลินิวส์ภาคเหนือตอนบน จ.เชียงใหม่ เมื่อเวลา 10.00 น. วันที่ 30 มิ.ย. นายพิจิตร ศุภยางค์ อายุ 72 ปี บิดาของ “ปุ้ย” พิมลวรรณ ศุภยางค์ พิธีกรสาวรายการ “ผู้หญิงถึงผู้หญิง” ทางสถานีโทรทัศน์ช่อง 3 อยู่บ้านเลขที่ 225/532 หมู่ 11 ต.บ้านแหวน อ.หางดง จ.เชียงใหม่ เดินทางมาพบผู้สื่อข่าวเพื่อร้องเรียนว่าสิทธิในการเลือกตั้งส.ส.ในวันที่ 3 ก.ค.นี้ หายไป

นายพิจิตร กล่าวว่า ก่อนหน้านี้ตนได้รับหนังสือจากคณะกรรมการเลือกตั้ง ประจำเขตเลือกตั้งที่ 8 จ.เชียงใหม่ ส่งมาให้ที่บ้าน โดยระบุว่าให้ตนและภรรยาไปเลือกตั้งส.ส.ใน หน่วยเลือกตั้งที่อ่านหนังสือพิมพ์ประจำหมู่บ้าน ระหว่างเวลา 08.00-15.00 น. โดยตนมีรายชื่อในบัญชีผู้มีสิทธิ์เลือกตั้งลำดับที่ 357 แต่ท้ายหมายเลขลำดับของตน มีข้อความว่าใช้สิทธินอกจังหวัด และภรรยาอยู่ในลำดับที่ 358 ส่วนของภรรยาตนไม่มีข้อความดังกล่าว ด้วยความแปลกใจจึงสอบถามไปยังกกต.ว่าข้อความดังกล่าวหมายความว่าอย่างไร ซึ่งได้รับการชี้แจงว่าตนอยู่ในบัญชีรายชื่อผู้ขอใช้สิทธิล่วงหน้า ต้องไปใช้สิทธิเลือกตั้งส.ส.ล่วงหน้าเมื่อวันที่ 26 มิ.ย.ที่ผ่านมา ที่เขตลาดพร้าว กรุงเทพฯ ส่วนการเลือกตั้งทั่วไปวันที่ 3 ก.ค.นี้ ตนไม่มีสิทธิ

“สมัยการเลือกตั้งส.ส.ทั่วไป เมื่อปี 50 ผมขอใช้สิทธิล่วงหน้าจริง เพราะขณะนั้นทำธุรกิจอยู่ในกรุงเทพฯ ส่วนการเลือกตั้งครั้งนี้ไม่ได้ลงทะเบียนเลือกตั้งล่วงหน้าแต่อย่างไร โดยตั้งใจจะใช้สิทธิในวันที่ 3 ก.ค.นี้ ที่หน่วยเลือกตั้งในภูมิลำเนาที่จ.เชียงใหม่ แต่เมื่อสอบถามไปยังผู้เกี่ยวข้องแล้ว ปรากฏว่าไม่สามารถใช้สิทธิได้ เพราะเคยลงทะเบียนเลือกตั้งล่วงหน้าไว้เมื่อการเลือกตั้งครั้งก่อน จึงต้องไปใช่สิทธิตามนั้น ผมก็งงว่าทำไม่ระบบการเลือกตั้งของไทย จึงเป็นแบบนี้ ทั้งที่ความจริงฐานข้อมูลผู้ลงบัญชีเลือกตั้งล่วงหน้า ควรจะใช้กันครั้งต่อครั้ง ไม่น่าจะมีผลผูกพันกับการเลือกตั้งครั้งต่อไป และเท่าที่ทราบมีคนเดือดร้อนใช้สิทธิไม่ได้เหมือนผมจำนวนมาก”

นายพิจิตร กล่าวว่า การเลือกตั้งระดับท้องถิ่น ทั้งผู้ใหญ่บ้าน และกำนัน ทำไมตนจึงไปใช้สิทธิได้ หลังจากทราบว่าวันที่ 3 ก.ค.นี้ จะไม่มีสิทธิเลือกตั้ง จึงสอบถามทุกหน่วยงานที่เกี่ยวข้องโดยเฉพาะกกต.ว่าจะทำอย่างไรเพื่อคืนสิทธิ ให้ตนได้

ก็ได้รับคำตอบว่าแก้ไขไม่ได้แล้ว โดยเจ้าหน้าที่อ้างว่ากลัวความผิดและมีกฏหมายเลือกตั้งใหม่ไม่สามารถช่วย อะไรได้แล้ว.