สำนักข่าวต่างประเทศรายงานว่า นางมาร์เซลล่า คาปราริโอ นักร้องสาวโอเปรา และครูในโรงเรียนหลายภาษาชั้นประถม วัย 37 ปี ต้องขึ้นศาลอาญาแมนฮัตตัน กรุงนิวยอร์ก เมื่อวันอังคารที่ 14 มิถุนายน 2554 ด้วยข้อหาทำร้ายร่างกาย หลังจากยอมรับว่าได้ตบหน้าดร.แคทลีน ลอนดอน ซึ่งเป็นแพทย์ทั่วไปประจำครอบครัวและเป็นผู้แสดงทัศนะในรายการโทรทัศน์ด้วย
โดยเหตุการณ์นี้เกิดขึ้นจากการเผชิญหน้าของคู่กรณีหญิงทั้งสอง เมื่อวันที่ 9 มิถุนายน 2554 ที่ร้านขายของชำ Trader′s Joe ที่อยู่ระหว่าง Broadway กับถนน 72 โดยมีผัดไทยมังสวิรัติใส่เต้าหู้แช่แข็งเป็นชนวนสาเหตุ โดยนายบิล ฮ๊อบบ์ส สามีของนางคาปราริโอ พยายามจะหยิบกล่องผัดไทยจากตู้แช่แข็ง แต่ทันใดนั้น ด.ช. Noah ลูกชายวัย 13 ขวบของ ดร.ลอนดอน ก็ตัดหน้าตรงทางเดินแคบๆ ทำให้นายฮ๊อบบ์ส ไม่สามารถหยิบกล่องผัดไทยได้ แต่ด.ช. ปฏิเสธคำให้การดังกล่าว โดยบอกว่านาบฮ๊อบส์ ไปถึงตรงนั้นทีหลังเขาเสี้ยววินาที จากนั้นก็แสดงท่าทีก้าวร้าว
ดร.ลอนดอน ให้การว่านายฮ๊อบส์ เริ่มใช้คำพูดไม่ดีกับลูกชายของเธอ และตอนนี้เองนางคาปราริโอ ก็มายืนอยู่ข้างๆสามี ในขณะที่คนเริ่มมามุงดูเหตุการณ์ เธอได้จับตาดูและให้คำจำกัดนางคาปราริโอว่า กรีดร้องเหมือนผีเข้า เธอจึงก้าวออกมาข้างหน้าเพื่อป้องกันตัว
นางคาปราริโอ ให้การว่า ได้ตบดร.ลอนดอน เข้าไปฉาดนึงที่หูข้างขวาและแก้ม ชนิดแก้วหูลั่นเปรี๊ยะ ดร.ลอนดอน เธอจีงเรียกตำรวจ ซึ่งรีบรุดมาถึงเหตุการณ์ไม่นานหลังจากนั้น ดร.ลอนดอน บอกว่า นางคาปราริโอ ยิ้ม และดูจะพอใจกับการกระทำของตัวเองอย่างมาก
อย่างไรก็ตาม นางคาปราริโอ ไม่ได้โต้แย้งเรื่อง "การตบ" แต่อ้างว่า ทำไปเพื่อป้องกันตัวเอง จากการที่ดร.ลอนดอน ละเมิดกฎหมายเรื่อง "พื้นที่ส่วนตัว ของเธอ
ในช่วงการพิจารณาคดีนางคาปราริโอ มีปฏิกิริยา ส่ายศีรษะ เบิกตากว้าง และกระทืบเท้า ที่พื้นศาลตลอดเวลา โดยอัยการ พยายามวาดภาพนางฮ๊อบส์ ขณะที่เผชิญหน้าด้วยวาจากับลูกชายลอนดอน
ด้านทนายจำเลย ถามลูกชายดร.ลอนดอน ว่า ไม่คิดว่าแปลกใจหรือที่ คนแปลกหน้าเริ่มตะโกนใส่หน้าแบบนั้น ซึ่ง ด.ช.โนอาห์ ตอบว่า เหตุการณ์ทั้งหมดเลยนั้นมันแปลกมาก
อย่างไรก็ตาม เมื่อวันพุธที่ 15 มิถุนายน ผู้พิพากษา ตัดสินคดีนี้ว่า จำเลยไม่มีความผิด จากการเบิกความดังนี้
โดยจำเลยไม่ปฏิเสธว่า "มีการตบเกิดขึ้น" แต่ชี้ในประเด็นว่า ใครเป็นคนยั่วยุให้กิดเหตุการณ์ ในขณะที่นายฮ๊อบส์ พยายามจะหลีกลูกชาย Dr. London เพื่อจะหยิบกล่องผัดไทย ซึ่งยืนขวางทางอยู่ โดยพูดคำขอโทษ อยู่หลายครั้ง และเมื่อดร.ลอนดอน ก้าวเข้ามาข้างหน้า ตามที่อ้างว่าป้องกันตัว เลยโดนนางคาปราริโอ ตบเข้าให้
ฝ่ายผู้ช่วยอัยการประจำเขต แถลงปิดคดีว่า เรื่องนี้ผู้พิพากษาไม่ต้องพิจาณาอะไรมากเลย เพราะเป็นกรณีที่ธรรมดามากๆ คือ "จำเลยได้ตบดร.ลอนดอน
ในช่วงการสรุปคดี ผู้พิพากษา แสดงความเบื่อหน่ายออกมาอย่างเห็นได้ชัด ขณะที่ทนายจำเลยกล่าวปิดคดี ผู้พิพากษาก็หลับตาแล้วลูบหน้าผากตัวเอง พอฝ่ายอัยการแถลงโดยยกภาพดร.ลอนดอน ที่หน้าแดงเพราะถูกตบ ให้ดู ผู้พิพากษาไม่ได้มองเลยด้วยซ้ำ
ด้านนางคาปราริโอ แสดงความโล่งใจหลังจากศาลอ่านคำตัดสิน ทนายจำเลยบอกว่า ไม่คิดว่าเรื่องจะมาได้ไกลขนาดนี้ด้วยซ้ำ แต่ทนายจำเลยกล่าวทิ้งทายว่า "คนที่แพ้ตัวจริง คือประชาชนนิวยอร์กที่เสียภาษี"