ผงะ!พบซากงูเหลือมถูกขนมาทิ้งเพิ่ม หลายหน่วยงานท้องถิ่นเต้น บุกตรวจรง.ลูกชิ้นชื่อดังหวั่นแอบใส่เนื้องู พบนักค้าหัวใสเจียวขายแทนน้ำมันหมู
จากกรณีมีชาวบ้านไปพบถุงปุ๋ยกว่า 40 ใบ บรรจุซากงูเหลือมถูกนำมาทิ้งไว้ในป่ากระถินริมถนนเลี่ยงเมือง สายบ้านโตก-นางั่ว ระหว่างหลัก กม.ที่ 4-5 หมู่ 6 ต.ป่าเลา อ.เมือง จ.เพชรบูรณ์ ซึ่งมีการตั้งข้อสังเกตว่างูดังกล่าวอาจถูกชำแหละเนื้อส่งขายให้กับโรงานลูกชิ้นหรือทำแหนมสด ทั้งภายในจังหวัดและพื้นที่ใกล้เคียง ส่วนหนังถูกนำไปส่งขายให้โรงงานทำกระเป๋า
เกี่ยวกับความคืบหน้าเรื่องนี้ดังกล่าว เมื่อวันที่ 17 มิ.ย. นายสุวิทย์ สุริยะวงศ์ ปลัดอาวุโส อ.เมือง
พร้อมด้วยเจ้าหน้าที่สาธารณสุขอำเภอ เจ้าหน้าที่เขตรักษาพันธุ์สัตว์ป่าตะเบาะห้วยใหญ่ เจ้าหน้าที่ทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อมจังหวัด และผู้นำองค์กรปกครองส่วนท้องถิ่น ร่วมกันไปตรวจสอบสถานที่ที่พบซากงู พบมีผู้นำถุงปุ๋ยบรรจุไส้ เครื่องในงูเหลือม และโครงกระดูกที่มีการแร่ชำแหละแล้วมาทิ้งเพิ่มเติมอีกจำนวนมาก ตลอดริมถนนเลี่ยงเมือง บ้านโตก-นางั่ว เป็นระยะทางเกือบ 1 กม. ส่งกลิ่นเน่าเหม็นไปทั่วบริเวณ เนื่องจากเริ่มมีสภาพเน่าเปื่อย บางถุงมีหนอนไต่ยั้วเยี้ยเต็มไปหมด เจ้าหน้าที่จึงฉีดพ่นยาฆ่าเชื้อในบริเวณดังกล่าว เพื่อป้องกันการแพร่ระบาดของเชื้อโรคต่างๆ
หลังจากนั้นคณะเจ้าหน้าที่ได้เดินทางไปยังโรงงานผลิตลูกชิ้น“ไทยรุ่งทิพย์” ตั้งอยู่ใน อ.เมือง เพื่อตรวจสอบขั้นตอนการผลิต เนื้อสัตว์ที่นำมาใช้ทำลูกชิ้น และคุณภาพของผลิตภัณฑ์ แต่ไม่พบสิ่งผิดปกติที่สามารถบ่งชี้ได้ว่าโรงงานดังกล่าวนำเนื้องูเหลือมมาใช้ในการผลิต
นางกชนวัฒน์ วาสนาพันธพงษ์ กก.ผจก.บริษัทไทยรุ่งทิพย์ กล่าวว่า โรงงานผลิตลูกชิ้นไก่ หมู และเนื้อ ส่งจำหน่ายในจังหวัดมานาน
แต่หลังมีกระแสข่าวมีการนำเนื้องูมาผสมทำเป็นลูกชิ้น ทางบริษัทจึงได้รับผลกระทบอย่างมาก ทั้งนี้ยืนยันว่าโรงงานไม่สามารถนำเนื้องูมาผสมได้ เนื่องจากในแต่ละวันผลิตลูกชิ้นราว 3-4 ตัน หากใช้เนื้องูมาผสมจะต้องใช้ในปริมาณที่มาก ซึ่งตนเองก็เพิ่งทราบจากข่าวว่านำเนื้องูมาทำลูกชิ้นได้เช่นกัน อย่างไรก็ตามทางจังหวัดควรเร่งหาผู้กระทำผิดมาดำเนินคดีด้วยเร็ว เพื่อให้ชาวบ้านกล้าบริโภคลูกชิ้นได้อย่างสบายใจ
ด้าน นายพิทักษ์ มิ่งขวัญ นายก อบต.บ้านโตก อ.เมือง กล่าวว่า ที่ผ่านมาไม่เคยมีรายงานว่า
มีแหล่งรับซื้องูเหลือมหรือแหล่งชำแหละงูอยู่ในพื้นที่ ซึ่งก็เป็นไปได้มากว่าซากงูทั้งหมดนี้อาจถูกชำแหละมาจากพื้นที่อื่นก่อนนำซากมาทิ้งในบริเวณดังกล่าว โดยดูจากร่องรอยแล้วผู้ชำแหละน่าจะเป็นมืออาชีพที่ทำเป็นขบวนการ ซึ่งอาจทั้งรับซื้อและชำแหละด้วย ส่วนแหล่งหรือโรงงานชำแหละคาดว่าน่าจะอยู่ในรัศมีราว 20 กม.จากจุดที่ทิ้งซาก
“สิ่งที่น่าห่วงใยก็คือการบริโภคเนื้องูเหลือม อาจเป็นอันตรายได้เพราะมีพยาธิหรือเชื้อโรคแฝงอยู่ ที่สำคัญพื้นที่ดังกล่าวเป็นป่าต้นน้ำ เมื่อฝนตกน้ำจะไหลผ่านหลายตำบลก่อนไปลงแม่น้ำป่าสัก จึงเรียกร้องให้ทางจังหวัดเร่งหาผู้กระผิด เพราะนอกจากจะส่งผลต่อภาพลักษณ์ของจังหวัดแล้ว ยังทำให้เป็นแหล่งแพร่เชื้อโรคได้ด้วย”นายพิทักษ์กล่าว
นายสุวิทย์ กล่าวว่า ทางจังหวัดได้ตั้งคณะกรรมการขึ้นมาตรวจสอบหาที่มา แหล่งผลิตและสถานที่รับซื้อเนื้องูเหลือมแล้ว
แต่ขณะนี้ยังไม่มีอุปกรณ์ใดสามารถแยกแยะเนื้อสัตว์แต่ละชนิดได้ทันทีนอกห้องแล็ป ซึ่งเบื้องต้นทางสาธารณสุขฯทำได้เพียงตรวจสอบความถูกต้องในการขออนุญาตจดทะเบียนกับองค์การอาหารและยา(อย.) ที่มาของวัตถุดิบ กระบวนการผลิตและการตรวจสารปนเปื้อนต่างๆเท่านั้น อย่างไรก็ตามได้กำชับผู้ประกอบให้การเข้มงวดและปฏิบัติตามระเบียบอย่างเคร่งครัด
ขณะที่ นพ.วันชัย ธีระกาญจน์ สาธารณสุขจังหวัด กล่าวว่า ปกติเนื้องูเป็นอาหารที่มีโปรตีนและมีกลุ่มคนนิยมบริโภคกันอยู่แล้ว
แต่ต้องระวังอันตราย เพราะพยาธิที่อยู่ในสัตว์เลื้อยคลานจะมีขนาดเล็ก หากบริโภคแบบสุกๆดิบก็ยิ่งเป็นอันตราย ทั้งนี้จากซากหลักฐานที่ปรากฎ ส่วนเนื้อกับหนังหายไป ซึ่งคาดว่าหนังงูคงจะถูกไปใช้ทำกลอง รองเท้า และกระเป๋า ดังนั้นวัตถุประสงค์หลักของคนที่นำซากงูมาทิ้ง อาจไม่เกี่ยวกับเรื่องนำเนื้อไปกินก็เป็นได้ ทางที่ดีต้องทำให้ข้อมูลกระจ่างชาวบ้านจะได้เลิกวิตกเวลาบริโภคอาหารต่างๆ
ต่อมาช่วงเย็นวันเดียวกัน นายสุเทพ เบียร์ดี ปลัดอำเภอเมืองฝ่ายป้องกัน
พร้อมเจ้าหน้าที่ตำรวจ สภ.เมือง และอส.เข้าตรวจค้นบ้านเลขที่19 และ21 ถนนกลางเมืองพัฒนา ต.ในเมือง อ.เมือง ของนางละออจิต จันทะคูน อายุ 56 ปี พบงูเหลือมและงูพันธุ์อื่นที่ยังมีชีวิตอยู่ในลังไม้ 21 ลัง รวมประมาณ 70 ตัว ซากงูพันธ์ต่างๆ21 ถุงปุ๋ย หนังงูเหลือมขึงอยู่กับไม้กระดาน 30 ผืน ซากตัวนิ่ม 3 ตัว อุ้งตีนหมีและดีหมีบรรจุขวดจำนวนหนึ่ง ตู้แช่เย็น2ตู้ภายในมีเนื้องูเหลือมชำแหละ เครื่องใน และมันเปลวงูจำนวนมาก สอบสวนนางละออจิต อ้างว่า รับซื้องูจากชาวบ้านราคากก.ละ 10 บาท ขายต่อให้เจ้าของบ่อปลาใช้ทำเป็นอาหารปลาในราคา กก.20 บาท ส่วนมันเปลวงูนำไปเจียวเป็นน้ำมันทำอาหารส่งขายให้แม่ค้าในตลาด โดยหลอกว่าเป็นน้ำมันหมู ส่วนซากงูที่ถูกทิ้งอยู่ริมนั้นยืนยันว่าไม่ได้มีส่วนเกี่ยวข้อง เจ้าหน้าที่จึงควบคุมตัวดำเนินคดีตามกฎหมายต่อไป.