ฟันโรงชำแหละเถื่อน ซื้อไก่ตายจากฟาร์มขายร้านหมูกระทะราคาถูก เตือนคนกินระวังมะเร็ง

จากกรณีตรวจสอบพบว่า มีโรงชำแหละไก่เถื่อนหลายแห่งที่ อ.ปากช่อง จ.นครราชสีมา

ลักลอบนำซากไก่ตายที่ไปรับซื้อจากฟาร์มหลายแห่ง ในราคาเพียงตัวละ 3 บาท ก่อนนำมาชำแหละแล้วไปจำหน่ายให้กับร้านหมูกระทะ รวมทั้งผู้ผลิตอาหารสำเร็จรูปบางรายในราคาตัวละ 40-50 บาท โดยเนื้อไก่ที่ยังไม่เน่าเสียจะชำแหละใส่ถุงพลาสติคเพื่อนำไปขายต่อ ส่วนชิ้นส่วนที่เริ่มมีกลิ่นเน่าและมีสีเขียวช้ำ จะนำไปขยำกับดินประสิวหรือฟอร์มาลิน เพื่อให้เนื้อไก่กลับมาสีชมพูใกล้เคียงกับเนื้อไก่ปกติอีกครั้ง ซึ่งมีการรับซื้อซากไก่มากว่า 4 ปีแล้ว

นายปรีชา สมบูรณ์ประเสริฐ อธิบดีกรมปศุสัตว์ เปิดเผยเมื่อวันที่ 13 มิถุนายน ภายหลังการลงพื้นที่ตรวจโรงชำแหละไก่เถื่อน ต.กลางดง อ.ปากช่อง จ.นครราชสีมา 

เจ้าของโรงเชือดไก่เถื่อนเป็น 4 รายเดิมจากทั้งหมด 11 ราย ที่เคยก่อเหตุเช่นนี้มาแล้วเมื่อช่วงเดือนเมษายนที่ผ่านมา และอยู่ระหว่างรอลงอาญา ตามมาตรา 17 พ.ร.บ.โรคระบาดสัตว์ พ.ศ. 2499 และฉบับแก้ไขเพิ่มเติม พ.ศ.2542 ประกอบด้วย 1.นายสุชาติ ดีบุญสาคร 2.นายโสพิศ ศิริทรัพย์ 3.นายชัชวาล เพชรพรหม และ 4.นางอินทิรา อินทะวัน บทลงโทษคือจำคุกไม่เกิน 1 ปี หรือปรับไม่เกิน 20,000 บาท หรือทั้งจำทั้งปรับ

ทั้งนี้ กรมปศุสัตว์สั่งให้เจ้าหน้าที่เก็บตัวอย่างชิ้นเนื้อไปตรวจสอบในห้องแล็บ เพื่อหาเชื้อประกอบหลักฐานเอาผิด
 
และสั่งการให้เจ้าหน้าที่พ่นสเปรย์ฆ่าเชื้อโรคในพื้นที่เกิดเหตุ ป้องกันการระบาดและดับกลิ่นซากสัตว์ โดยให้รถแบ๊คโฮขุดฝังกลบ เพื่อป้องกันการแพร่ระบาดของเชื้อโรค ซึ่งผู้ต้องหาทั้ง 4 ราย อาจถูกดำเนินคดีมีโทษรุนแรงกว่ามาตรา 17 เพราะเคยก่อเหตุมาแล้วและมีหลักฐานแสดงเจตนาจงใจมากขึ้น เพราะครั้งนี้สร้างรั้วเพื่อป้องกันคนเห็นด้วย

นายปรีชากล่าวว่า หลังจากนี้กรมฯจะเพิ่มอัตรากำลัง โดยโยกเจ้าหน้าที่ด่านกักกันสัตว์ในพื้นที่ใกล้เคียงอีก 16 คน

จากในพื้นที่ที่มี 11 คน รวมเป็น 27 คน มาช่วยตรวจและป้องกันการเคลื่อนย้ายสัตว์ผิดกฎหมาย รวมทั้งขอความร่วมมือจากตำรวจ และประชาชนในพื้นที่ช่วยกันสอดส่อง หากพบเบาะแสสามารถแจ้งเจ้าหน้าที่ด่านหรือที่กรมฯ โรงชำแหละดังกล่าวไม่มีการขึ้นทะเบียนเป็นโรงฆ่าสัตว์ จึงมักแอบทำในพื้นที่บ้าน โดยจะรับซื้อซากไก่ที่ตายแล้วจากฟาร์มต่างๆ มาชำแหละขายต่อ ตามปกติไก่ตามฟาร์ม 100 ตัว จะตายประมาณ 1 ตัว นอกจากนี้ยังพบว่ามีการชำแหละเนื้อสัตว์ประเภทอื่น ที่กระทำผิดในลักษณะเดียวกัน ทั้งเนื้อวัว ควายและหมู ซึ่งกรมฯออกตรวจสอบต่อเนื่องอยู่แล้ว แต่ขาดหลักฐานที่ชัดเจน

ด้าน นพ.พิพัฒน์ ยิ่งเสรี เลขาธิการ อย. กล่าวว่า ฟอร์มาลินเป็นสารต้องห้าม อย.ไม่อนุญาตให้นำมาใส่ในอาหาร
 
ผู้ใดนำมาผสมอาหารถือว่ามีความผิด หากผู้บริโภครับสารฟอร์มาลินเข้าไปในร่างกายจะเกิดพิษโดยตรง เริ่มตั้งแต่การสัมผัสจะเกิดอาการคันบริเวณผิวหนัง นอกจากนี้ ยังมีผลต่อระบบทางเดินอาหาร คือ กระเพาะอักเสบ ปวดท้อง อาเจียน หากเกิดพิษเฉียบพลันอาจจะท้องเสีย ส่วนพิษสะสมก็ก่อเป็นมะเร็ง ทำลายระบบประสาท เกิดการกลายพันธุ์ของเซลล์สืบพันธุ์หรือเป็นหมันได้

ขณะที่ นพ.รุ่งเรือง กิจผาติ ผู้อำนวยการสำนักโรคติดต่ออุบัติใหม่ กรมควบคุมโรค กล่าวว่า จากการติดตามสถานการณ์ไข้หวัดนกทั่วประเทศ ยังไม่พบพื้นที่ไก่ตายผิดปกติ
 
ทั้งนี้ การบริโภคไก่ตาย หากไก่มีเชื้อแบคทีเรียหรือตายผิดธรรมชาติ จะเกิดกลุ่มอาการท้องเสียและโรคทางเดินอาหาร ส่วนการกินเนื้อที่ผสมฟอร์มาลินนั้น อาการหลักจะเกิดการแพ้ และระบบประสาท เช่น มึน งง ชา ขึ้นอยู่กับปริมาณที่ได้รับด้วย และการผ่านความร้อนไม่ช่วยให้สารฟอร์มาลินหายไปจากเนื้อไก่